xs
xsm
sm
md
lg

“มาลี” ทุ่ม 1.5 พันล้านดันโกลบอล น้ำผลไม้ไม่พอต้องรุกเฮลตี้ฟูด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำโดย นายฉัตรชัย บุญรัตน์ (กลาง) ประธานบริษัทฯ พร้อมด้วยนางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ (ที่สองจากขวา) ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ นายโอภาส โลพันธ์ศรี (ที่สองจากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ จัดทัพครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 40 ปี  ทุ่ม 1,500 ล้านบาท เดินหน้าเปิดทิศทางการดำเนินธุรกิจขับเคลื่อนบริษัทจาก “ผู้ผลิตน้ำผลไม้” สู่การเป็น “ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลก” ภายในปี 2564 ชูกลยุทธ์ “4R: รีแบรนด์-รีออกาไนซ์-รีโนเวท-รีคอนเนค” สร้างความแข็งแกร่งของบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของผู้บริโภคในแต่ละประเทศได้อย่างตรงจุด โดยมีนางชญาณิสา กรีพลฤกษ์ (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานการตลาดและการขาย และหนิง ศรัยฉัตร กุญชร จีระแพทย์ (ขวา) ร่วมงาน
ผู้จัดการรายวัน360 - “มาลี” เคลื่อนทัพครั้งใหญ่ ทุ่ม 1.5 พันล้านบาทในช่วง 3 ปีสู่ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกภายในปี 2564 ชู 4 ยุทธศาสตร์หลัก พร้อมตั้งทีมใหม่บุกต่างประเทศ สยายปีกสู่สินค้าใหม่นอกจากน้ำผลไม้ที่เติบโตช้า

น.ส.รุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2559-2561 เป็นช่วงที่บริษัทฯ ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่รอบ 39 ปี โดยใช้งบมากกว่า 1.5 พันล้านบาท เพื่อก้าวข้ามจากการเป็นเพียงผู้ผลิตน้ำดื่มผลไม้ เป็นผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับโลกภายในปี 2564 โดยกำหนดยุทธศาสตร์ไว้ 4 ด้านหลักคือ 1.การรีแบรนด์ 2.การรีออกาไนซ์องค์กร 3.การรีโนเวท และ 4.การรีคอนเนค

สำหรับการรีแบรนด์ต้องปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัยมีความเป็นสากล มีการพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ การขยายไลน์สอนค้านอกเหนือจากน้ำผลไม้ โดยตั้งเป้าหมายมีสัดส่วนรายได้จากน้ำผลไม้ 50% และสินค้าอื่นที่ไม่ใช่น้ำผลไม้อีก 50% โดยในช่วงปี 2559 ได้เริ่มขยายไลน์ด้วยการเปิดตัวกาแฟและเยลลี่ จากการเปิดตัวเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติภายใต้บริษัท เมก้า มาลี จำกัด ขณะเดียวกันสินค้าน้ำผลไม้บางตัวที่สร้างรายได้ไม่คุ้มค่าก็มีการตัดทิ้งออกจากพอร์ตโฟลิโอแล้วประมาณ 20% จากที่มีอยู่ทั้งหมดกว่า 200 รายการ เพื่อให้เหลือเฉพาะสินค้าที่จำหน่ายดีและสร้างการเติบโตโดยเฉพาะน้ำผลไม้ 100%

ส่วนการรีออกาไนซ์องค์กรมีการแต่งตั้งทีมผู้บริหารใหม่และผลักดันบุคลากรเดิมสู่ตำแหน่งที่เหมาะสม พร้อมจัดตั้งหน่วยงานใหม่ เช่น Business Development และ International Business เพื่อเตรียมความพร้อมและรองรับสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก วางเป้าหมายสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศสัดส่วน 43% เพิ่มเป็น 50% เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจส่งออกที่บริษัทฯ ผลิตและส่งออกทั้งแบรนด์มาลีและการรับจ้างผลิต Contract Manufacturing หรือ CMG ไปยังตลาดต่างๆ ทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ อาทิ ภูมิภาค CLMV จีน ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอเมริกา มีอัตราการเติบโตถึง 30-40%
บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำโดย นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ (กลาง) ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ นายโอภาส โลพันธ์ศรี (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ นางชญาณิสา กรีพลฤกษ์ (ขวา) รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานการตลาดและการขาย
ในส่วนของการรีโนเวท บริษัทฯได้ปรับปรุงโรงงานเพื่อให้มีความทันสมัยและลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยลงทุนเครื่องจักรใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิตจากเดิม 300 ล้านลิตรต่อปี เป็น 330 ล้านลิตรต่อปีในปี 2561 รองรับความต้องการตลาดทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งยังได้พัฒนาระบบไอทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและปรับปรุงสำนักงานใหม่

ส่วนด้านรีคอนเนคจะมีการพัฒนาช่องทางขายและการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ Monde Nissin Corporation ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศฟิลิปปินส์ Mega Lifesciences ผู้ผลิตยาและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น
รุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท มาลี กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
“แผนความร่วมมือในรูปแบบใหม่ของมาลีกรุ๊ปในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถเชื่อมต่อและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพราะหากเราทำตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้เพียงอย่างเดียวคงไม่เติบโตก้าวกระโดดเหมือนในอดีต เพราะตลาดรวมเติบโตช้าลง โดยในช่วง 3 เดือนแรกปี 2560 ติดลบ 1% จากมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท เราจึงต้องหลุดออกมาจากกรอบเดิมๆ เพื่อหาช่องทางใหม่ๆ ที่จะขยายได้ทั้งอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ” น.ส.รุ่งฉัตร กล่าวในที่สุด



กำลังโหลดความคิดเห็น