ผู้จัดการรายวัน 360 - “เอส.ซี.เอส.” ขยายตลาดรองเท้าแฟชั่น ดัน “เบรกเกอร์” ลุย ปั้นคอลเลกชั่น “ฮอร์นบิล” เหตุตลาดรองเท้านักเรียนโตน้อย แข่งรุนแรง รายใหม่เพียบ พร้อมเริ่มบุกอี-คอมเมิร์ซปลายปีนี้
นายสมฤกษ์ วงศ์วีระนนท์ชัย กรรมการผู้บริหาร บริษท เอส.ซี.เอส. สปอร์ตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้าแบรนด์ “เบรกเกอร์”, “ป๊อปทีน”, “แคทชา” และ “เบรกเกอร์ ฟุตซอล” เปิดเผยว่า ตลาดรองเท้านักเรียนมีมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท เติบโตไม่มากเฉลี่ย 2-3% ต่อปีเท่านั้น แต่เป็นตลาดที่แข่งขันรุนแรง เพราะเป็นสินค้าราคาควบคุมและขายได้ดีเฉพาะฤดูกาล หรือช่วงเปิดเทอมใหญ่แค่ 2 เดือนเท่านั้น ประกอบกับแนวโน้มการเกิดใหม่ของเด็กใหม่ที่ลดลง รวมทั้งมีแบรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาดและการเล่นสงครามราคาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยข้างต้นจึงทำให้บริษัทฯ ต้องขยายฐานธุรกิจสร้างการเติบโตและความหลากหลายของสินค้าในพอร์ตโฟลิโอ เพื่อทำให้บริษัทฯ มีสินค้าครอบคลุม ทั้งกลุ่มนักเรียน กีฬา และแฟชั่น แต่ยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ โดยเหตุผลที่ขยายตลาดเข้าสู่รองเท้าแฟชั่น เนื่องจากเป็นตลาดใหญ่กว่ารองเท้านักเรียน มีมูลค่าประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท ทั้งยังมีการเติบโตดีและมีข้อจำกัดในการทำตลาดน้อยกว่า สามารถพัฒนาและใส่นวัตกรรมลงได้อย่างไม่มีข้อจำกัด เพราะคนรุ่นใหม่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวอยู่แล้ว โดยบริษัทฯ ได้เริ่มทำตลาดตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยร่วมมือกับ “โจอี้ บอย” ออกรองเท้ารุ่น “เบรกเกอร์ เจ” จำนวน 500 คู่ จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ปรากฏว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเพราะจำหน่ายหมดภายใน 5 นาที โดยรายได้ทั้งหมดมอบให้กับมูลนิธิชัยพัฒนา
ล่าสุดเปิดตัว “เบรกเกอร์ ฮอร์นบิล” รองเท้าแฟชั่น ราคา 495 บาท จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้นเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.นี้ ตั้งเป้าขาย 2 พันคู่ โดยวางแผนในช่วงครึ่งปีหลังจะมี 4 คอลเลกชั่นรวม 20 ไอเท็ม วางเป้าขายคอลเลกชั่นละประมาณ 2 พันคู่ โดยจะไม่ทำการผลิตจำนวนมากเพื่อจะให้เป็นนิชมาร์เก็ต โดยการทำคอลเลกชั่นครั้งนี้อยู่ภายใต้แนวคิดการผูกโยงสินค้ากับพันธกิจอีกด้านของแบรนด์ในเรื่องของกิจกรรมเพื่อสังคม หรือซีเอสอาร์ เพื่อการปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เลือกเรื่องการปลูกป่าเป็นธีมหลักจึงเลือกเป็น “ฮอร์นบิล” ที่แปลว่า “นกเงือก” ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของป่า
“ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายผ่ายอี-คอมเมิร์ซ นอกจากช่องทางร้านค้ากว่า 1.5 พันแห่งซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้และนำสินค้าทุกแบรนด์ของบริษัทฯ จำหน่ายได้ประมาณ 200 เอสเคยู จากทั้งหมดกว่า 1 พันเอสเคยู ส่วนด้านการผลิตยังไม่มีแผนเพิ่มจากปัจจุบันผลิตเพียง 3 ล้านคู่ต่อปีจากกำลังผลิตรวม 4 ล้านคู่ต่อปี ทั้งยังไม่มีแผนรับจ้างผลิตโออีเอ็มแต่อย่างใด”
นายสมฤกษ์ ยังกล่าวด้วยว่า รองเท้านักเรียนผ้าใบเป็นตลาดหลัก 65% รองเท้ากีฬา 20% และอื่นๆ 15% โดย “เบรกเกอร์” มีส่วนแบ่งตลาดอันดับที่ 2 ประมาณ 30% รองจากผู้นำตลาดคือ “นันยาง” มีส่วนแบ่งมากกว่า 35% โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 15% ของปีที่แล้วรายได้รวม 1 พันล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกเติบโตกว่าเป้า 13% โดยปีนี้ใช้งบการตลาดรวม 50 ล้านบาท