xs
xsm
sm
md
lg

“บีโอไอ” นำนักธุรกิจไทยลงทุน 4 เมืองเศรษฐกิจอินโดนีเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บีโอไอนำทัพธุรกิจไทยดูลู่ทางการลงทุนเมืองจาการ์ตา-คาราวัง-ยอกยาการ์ตา-สุราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรเครื่องจักรและอุปกรณ์ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมร่วมงาน Manufacturing Surabaya 2017 เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจกับผู้ผลิตนวัตกรรมชั้นนำจากต่างประเทศ

นายชนินทร์ ขาวจันทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอชลบุรี) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2560 บีโอไอชลบุรีร่วมกับสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน และกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ จัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศ ณ เมืองจาการ์ตา-คาราวัง-ยอกยาการ์ตา-สุราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายสำรวจลู่ทางการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

กิจกรรมสำคัญ คือ การเดินทางไปเมืองสุราบายา เพื่อเข้าชมงาน Manufacturing Surabaya 2017 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าด้านวิศวกรรมการผลิตที่ครบวงจรที่สุดของอินโดนีเซีย โดยมีผู้ผลิตสินค้าจากประเทศญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ออสเตรีย และอินโดนีเซียมาออกบูทแสดงสินค้า ภายในมีการนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย รวมถึงนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์แม่พิมพ์และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมต่างๆ ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมจะสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจกับผู้ผลิตกลุ่มนี้ได้โดยตรงและสร้างช่องทางการลงทุนและการค้าใหม่ๆ ได้

นอกจากนั้น จะเยี่ยมชมโรงงาน PT. Sigma&Hearts Indonesia, Bekasi ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เยี่ยมชมโรงงานผลิตขนมขบเคี้ยวรายใหญ่ และหารือกับหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของอินโดนีเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านกฎระเบียบ และสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนของไทยและอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูปในอินโดนีเซีย ปัจจุบันมีบริษัทที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารแปรรูปประมาณ 6,000 ราย ตั้งแต่ระดับเอสเอ็มอี จนถึงผู้ผลิตรายใหญ่จากนักลงทุนท้องถิ่นและต่างชาติ ลักษณะการเข้าไปทำธุรกิจของนักลงทุนไทยควรเข้าไปร่วมทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่น มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีการแปรรูปและการถนอมอาหาร โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปอาหารของไทย

สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์นั้น ที่ผ่านมาไทยจะผลิตเพื่อการส่งออกเป็นหลัก ซึ่งอินโดนีเซียกำลังมีการขยายการลงทุน จึงมีความต้องการเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มขึ้น นักลงทุนไทยควรใช้โอกาสนี้เข้าไปสร้างเครือข่ายการลงทุน เพื่อนำองค์ความรู้ด้านเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่อยอดในการหาคู่ค้าไปตลาดอินโดนีเซีย และการลงทุนเพื่อสนับสนุนลูกค้าในอินโดนีเซีย

ผู้สนใจร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายและเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยในต่างประเทศ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2553-8371, 0-2553-8336, 0-3840-4907 อีเมล aat@boi.go.th, saranlak@boi.go.th, anocha@boi.go.th
กำลังโหลดความคิดเห็น