xs
xsm
sm
md
lg

“อุตตม” ลุยพื้นที่ EEC อัดเงินอุ้มเอสเอ็มอี ย้ำไม่พอจ่อขอเพิ่มให้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อุตตม” ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี เปิด “คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ” กระตุ้นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยให้เร่งปรับตัวรองรับการลงทุนระลอกใหม่เข้า EEC อัดแหล่งเงินช่วยเหลือรวมกว่า 3.8 หมื่นล้านจาก 3 กองทุนหลัก ล่าสุดอนุมัติเงินอุ้มเอสเอ็มอีทั่วประเทศแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท เผยหากประสบความสำเร็จพร้อมหาเงินสนับสนุนแบบถาวร

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการรกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเปิดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ คลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ ณ โรงแรมบางแสน เฮอริเทจ จังหวัดชลบุรี ว่า พื้นที่ จ.ชลบุรีเป็น 1 ใน 3 จังหวัดที่อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่ประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี และฉะเขิงเทรา ดังนั้นจึงเป็นพื้นที่เป้าหมายของการลงทุนขนาดใหญ่ที่มุ่งเน้น 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งนั่นหมายถึงเอสเอ็มอีจะต้องเข้มแข็งด้วยเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมทั้งเก่าและใหม่ในพื้นที่ดังกล่าวให้ก้าวไปสู่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไทยภายใต้โมเดลไทยแลนด์ 4.0

“EEC จะทำให้เกิดการลงทุนระลอกใหม่เข้ามาอีกครั้ง ดังนั้นเอสเอ็มอีจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเพราะก็จะเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมเป้าหมาย” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว

สำหรับคลินิกเอสเอ็มอีสัญจรแนวประชารัฐ จ.ชลบุรีจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 เพื่อบูรณาการการทำงานกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานเครือข่ายให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนและองค์ความรู้เพื่อยกระดับไปสู่ Smart SMEs ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมสัมมนาถึง 800 คนโดยมุ่งที่จะให้เอสเอ็มอีในพื้นที่ จ.ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง และสมุทรปราการ ให้เข้าถึงความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนที่รัฐพร้อมให้การช่วยเหลือมี 3 กองทุนหลัก ได้แก่ 1. กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท 2. โครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 15,000 ล้านบาท 3. เงินทุนที่บริหารโดย สสว. ได้แก่ โครงการเงินทุนพลิกฟื้นวิสาหกิจขนาดย่อมวงเงิน 1,000 ล้านบาท โครงการฟื้นฟูวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมวงเงิน 2,000 ล้านบาท และโครงการสินเชื่อประชารัฐเพื่อ Micro SMEs 200,000 บาท

“ขณะนี้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งประเทศยื่นคำขอสนับสนุนที่ได้มีการสกรีนแล้วในแหล่งเงินทุนดังกล่าวข้างต้นกว่า 8,136 ราย แหล่งวงเงิน 19,769 ล้านบาท และได้อนุมัติให้การช่วยเหลือไปแล้ว 12,251 ราย วงเงิน 4,257 ล้านบาท หากพบว่าประสบความสำเร็จจากครั้งนี้ก็พร้อมที่จะเสนอรัฐบาลในการหาเงินสนับสนุนเพิ่มขึ้นที่เป็นการถาวรต่อเนื่อง” รมว.อุตสาหกรรมกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น