ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดสินค้ากีฬาเชิงแฟชั่นบูม แบรนด์แฟชั่นแห่ลงตลาดเพียบ ด้าน “รีบอค” ไม่หวั่น ชูจุดแข็งรากฐานที่แข็งแกร่ง เดินหน้ากลยุทธ์ขยายไลน์สินค้า ชูคอลลาบอเรชัน ล่าสุดดึง “ลิเดีย” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ พร้อมเพิ่มสาขาใหม่ 2 ปีนี้อีก 7 แห่ง
นายวิจักษ์ สิริสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยท็อปสปอร์ต จำกัด ผู้จัดจำหน่าย รีบอค ในไทย เปิดเผยว่า ตลาดสินค้ากีฬาแข่งกันรุนแรง ทั้งจากแบรนด์เดิมที่เป็นอินเตอร์แบรนด์ที่ทำอยู่แล้ว และผู้เล่นหน้าใหม่ที่เป็นสินค้าแฟชั่นก็ขยายไลน์เข้ามาสู่เซกเมนต์นี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเอชแอนด์เอ็ม อันเดอร์อาร์เมอร์ ทิมเบอร์แลนด์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้ากีฬาที่เป็นแบรนด์เดิมอยู่แล้ว รวมทั้งแบรนด์รีบอคด้วย เนื่องจากรากฐานเป็นผู้ผลิตสินค้ากีฬาอยู่แล้ว
ขณะเดียวกัน “รีบอค” เองก็ได้ขยายไลน์สินค้าด้วยเช่นกัน คือ กลุ่มไฟติ้ง เช่น มวย โยคะ เพื่อเติมเต็มและรองรับกับความต้องการของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วย จากเดิมสินค้าหลักเช่น รองเท้า เสื้อผ้า เนื่องจากเทรนด์การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ๆ ที่ได้รับความนิยม ทั้งนี้ แต่ละเดือนรีบอคจะวางสินค้าใหม่ประมาณ 120 เอสเคยู
“เรายังจับกลุ่มเป้าหมายประเภท ฟิต เจนเนอเรชัน ซึ่งเป็นผู้ที่มีแนวคิดเรื่องการอกกกำลังกายที่แบ่งประเภทชัดเจน และวางแผนการออกกำลังกายอย่างมีระบบ ทั้งนี้ หากลงลึกในรายละเอียดพบว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่มีแนวโน้มการซื้อมากกว่าผู้ชาย เช่น ซื้อหลายสี หลายแบบ รวมถึงยังมีอุปกรณ์ส่วนตัวมากขึ้นมากกว่าที่ใช้ในยิม หรือฟิตเนสที่จัดไว้ให้ ด้วยเหตุผลด้านความสะอาดและความเป็นส่วนตัว จากแนวโน้มดังกล่าวบริษัทฯ จึงมีนโยบายการขยายสาขาและสินค้าสำหรับผู้หญิงมากขึ้น ทั้งกลุ่มกีฬาแบบเดิม ฟิตเนส โยคะ และกลุ่มกีษฬาต่อยมอย โดยชุดออกกำลังกายจะเน้นจุดขายเรื่องดีไซน์ แฟชั่น ลวดลาย และสีสัน รวมไปถึงอุปกรณ์ของรีบอคต่างๆ เช่น ถุงมือ เป้าล่อ นวมต่อยมวย กระสอบทราย เป็นต้น” นายวิจักษ์กล่าว
นอกจากนั้น รีบอคยังมุ่งเน้นกลยุทธ์คอลลาบอเรชัน หรือการร่วมมือกับสินค้าต่างกลุ่มเพื่อจัดทำเป็นคอลเลกชันพิเศษขึ้นมาจำหน่ายแบบจำนวนจำกัด ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ทั้งจากที่มาจากต่างประเทศและที่บริษัทคิดขึ้นมาเอง เช่น รุ่นตุ๊กตุ๊ก รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์อินฟลูเอนเซอร์ด้วย ใช้ศิลปิน ดารา หรือคนมีชื่อเสียง ในการแนะนำสินค้าผ่านโซเชียลมีเดีบยอย่างไอจี
ล่าสุดได้เซ็นสัญญากับ “ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” ให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์รีบอคประเทศไทย เนื่องจากลิเดียเป็นผู้ที่ชอบออกกำลังกายและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้แบรนด์รีบอคเป็นที่แพร่หลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วย
นายวิจักษ์กล่าวต่อว่า นอกจากการขยายไลน์กลุ่มสินค้าและกลยุทธ์การตลาดแล้ว บริษัทฯ วางแผนที่จะลงทุนขยายสาขาในปี2560-2561 รวม 7 สาขา ลงทุนสาขาละ 5 ล้านบาท ที่จะเปิดในปีนี้และปีหน้า เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ ดิไอคอนสยาม เป็นต้น ขณะที่ปีที่แล้ว (2559) เปิด 3 สาขา ปัจจุบันมีสาขาเปิดบริการแล้ว 11 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก และตั้งเป้าหมายภายในปี 2563 จะมีรวม 20 สาขา ซึ่งจะเน้นการเปิดร้านพื้นที่ใหญ่ขึ้นจากเดิมไม่ถึง 100 ตารางเมตร เป็น 150-200 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขยายไลน์สินค้าด้วย
สำหรับตลาดรวมสินค้ากีฬาในไทยปี 2559 ที่ผ่านมา เติบโต15% ส่วนบริษัทฯ เติบโตมากกว่าตลาดรวม ช่วง 4 เดือนแรกปี 2560 นี้ เติบโต 2 หลักเช่นกัน โดยสัดส่วนลูกค้าเป็นคนไทย 70% และคนต่างชาติ 30%