“ซัมซุง” โหมสมาร์ททีวีเกินแสนบาท ดึงคอนเทนต์ลงจอดันแชร์พรีเมียม

ผู้จัดการรายวัน 360 - “ซัมซุง” มั่นใจเทรนด์สมาร์ททีวีรุ่งอีกนานตามเทรนด์โลก ชี้ไทยยังมีสัดส่วนน้อยแค่ 25% เร่งเครื่องรุกตลาด เปิดตัว QLED TV ดูดแชร์อีก คาดตลาดรวมทีวีปี 60 โต 3% ในแง่มูลค่า

นางวรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมทีวีในไทยปี 2560 คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท เติบโต 3% หรือในแง่จำนวนประมาณ 3 ล้านยูนิต เติบโต 1% แต่ตลาดรวมยังมีโอกาสโตได้อีก แม้ว่าจะมีอัตราการครอบครองทีวีของประชากรไทยสูงแล้วก็ตาม เนื่องจากเทคโนลยีที่เปลี่ยนและพัฒนาไป รวมถึงการที่ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนทีวีเฉลี่ย 7 ปีต่อครั้ง

จากปัจจัยที่ตลาดทีวีเริ่มเข้าสู่ยุคดิจิตอลและสมาร์ททีวียิ่งทำให้ตลาดรวมโตเร็วขึ้น ซึ่งพบว่าในยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา รวมทั้งประเทศที่พัฒนาแล้ว มีสัดส่วนของสมาร์ททีวี หรือทีวีกลุ่มพรีเมียมมากกว่า 50% ของตลาดรวม ขณะที่ของประเทศไทยนั้นยังมีสัดส่วนเพียงแค่ 25% เท่านั้น จึงยังมีโอกาสที่ทีวีและสมาร์ททีวีจะเติบโตได้อีกมาก โดยคาดว่าภายในช่วง 2 ปีจากนี้ตลาดสมาร์ททีวีในไทยจะโตถึง 30%

นอกจากนั้น การขยายตัวของสังคมเมืองและการให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ การออกแบบ มีส่วนสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจซื้อทีวีด้วย จากผลการสำรวจของ “ซัมซุง” พบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เลือกซื้อทีวีพรีเมียมคือ คุณภาพของภาพ 93% การออกแบบและรูปโฉม 88% แบรนด์ 86% และฟังก์ชั่นของสมาร์ททีวี 79%

ในฐานะที่ “ซัมซุง” เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดทีวีเมืองไทยและทั่วโลกอย่างต่อเนื่องมากว่า 11 ปี ได้ศึกษาพฤติกรรม ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง พบว่าทีวีในปัจจุบันมีหลายจุดที่ยังไม่สามารถตอบความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง อาทิ ทีวีมักมีสายเกะกะทำให้ไม่สวยงามและมีข้อจำกัดด้านการจัดวาง หรือหลายบ้านมักหยิบรีโมทคอนโทรลสลับกันเพราะทีวี 1 เครื่องมีรีโมตมากกว่า 1 อัน

นอกจากนี้ยังพบว่า ภาพในทีวีมีสีซีดลงเวลาเพิ่มความสว่างให้หน้าจอ เป็นต้น “ซัมซุง” จึงได้คิดค้นนวัตกรรมทีวีล่าสุดที่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ และปิดจุดอ่อนของทีวีได้ตรงจุด เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการรับชมความบันเทิงภายในบ้าน ซึ่งจะเปลี่ยนนิยามใหม่ให้กับวงการทีวี จึงเป็นที่มาของ The Next Innovation in TV “Samsung QLED TV”

“ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี” ชูจุดเด่น 3 ด้าน ได้แก่ 1) Q Style ฉีกกฎของทีวีอย่างสิ้นเชิง ด้วยดีไซน์สวยงาม 360 องศา ไม่มีสายให้กวนใจด้วย Invisible Connectionหรือสายล่องหน สามารถติดทีวีไว้บนผนังโดยแทบไม่เหลือช่องว่างระหว่างทีวีและผนังด้วย No Gap Wall-Mount และยังสามารถตั้งทีวีไว้บริเวณใดของห้องก็สวยงามด้วยแอ็กเซสเซอรีที่สร้างสรรค์มาเพื่อทีวีเป็นครั้งแรก ทั้งขาตั้งทีวีรุ่นสตูดิโอสแตนด์ (Studio Stand) คล้ายขาตั้งเฟรมรูปภาพ และขาตั้งทีวีรุ่นกราวิตีสแตนด์ (Gravity Stand) หมุนตำแหน่งของทีวีได้

2) Q Smart ศูนย์รวมความบันเทิงภายในบ้านด้วยคอนเทนต์หลากหลาย อาทิ TV Plus คอนเทนต์บันเทิงทั้งวาไรตี้ มิวสิกวิดีโอ เกมโชว์ ภาพยนตร์ ละคร สามารถควบคุมทุกอุปกรณ์ด้วยรีโมตเดียว One Remote Control และเชื่อมต่อสมาร์ทดีไวซ์กับทีวีได้ง่ายดาย

3) Q Picture เทคโนโลยีการแสดงผลภาพเหนือชั้น ทีวีหนึ่งเดียวที่ทำงานร่วมกับแสง สร้างสีสันให้เข้มข้น 100% ชัดเจนสมจริงทุกมุมมอง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นจุดสำคัญในการสร้างนิยามใหม่ให้กับอุตสาหกรรมทีวี

สำหรับกลยุทธ์การโปรโมต “ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี” ในครั้งนี้ นางวรรณากล่าวว่า เนื่องจาก “ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี” เป็นทีวีพรีเมียม นอกจากจะสร้างการรับรู้ผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ และเตรียมจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผู้นำความคิดทางสังคมซึ่งจะช่วยเป็นกระบอกเสียงบอกต่อไปยังกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังเพิ่มการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น

นอกจากนี้ยังจัดพื้นที่หน้าร้านใหม่จำนวนมากกว่า 200 ร้านเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การรับชม “ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี” โดยตรง ทั้งยังมอบเอกสิทธิ์พิเศษมากมายสำหรับลูกค้า “ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี” อาทิ ผู้ที่ลงทะเบียนรับข้อมูลข่าวสารผ่านเว็บไซต์และซื้อ “ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี” 100 ท่านแรกจะได้รับขาตั้งรุ่นสตูดิโอสแตนด์ พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย สามารถติดตามได้จาก Facebook.com/SamsungThailand

นางวรรณากล่าวสรุปว่า “ซัมซุง” มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยคุณสมบัติ 3Q - Q Style, Q Smart, Q Picture ของ “ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี” ที่โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ เทคโนโลยีอันชาญฉลาด และการแสดงผลภาพที่เหนือชั้นจะยกระดับระบบความบันเทิงภายในบ้านและจะมาทำให้นิยามของทีวีที่ทุกคนเคยรู้จักเปลี่ยนไป ผนวกกับกลยุทธ์ทางการตลาด ที่จะช่วยปลุกตลาดทีวีพรีเมียมให้คึกคักและตอกย้ำความเป็นผู้นำของ “ซัมซุง” อย่างต่อเนื่องยาวนาน

ล่าสุด “ซัมซุง” วางตลาด 3 รุ่นคือ ซีรีส์ 7 จอแบน, ซีรีส์ 8 จอโค้ง และซีรีส์ 9 ตัวท็อป มีขนาดตั้งแต่ 55–88 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 1 แสนกว่าบาท ถึง 6 แสนกว่าบาท โดยตลาดจะเป็นทีวีขนาดใหญ่เป็นหลักตั้งแต่ 49 นิ้วขึ้นไป เติบโตกว่า 10% โดย “ซัมซุง คิวแอลอีดี ทีวี” จะยิ่งช่วยทำให้ “ซัมซุง” มียอดขายทีวีพรีเมียมมากขึ้น และผลักดันให้เป็นผู้นำตลาดทีวีต่อด้วยแชร์รวมที่ใกล้ 50% ซึ่งขณะนี้สัดส่วนยอดขายทีวีพรีเมียมของ “ซัมซุง” มีประมาณ 70% คาดว่าสิ้นเป็น 80% จากยอดขายทีวี “ซัมซุง” ทั้งหมด