กระทรวงพลังงานเตรียมจัดระเบียบใหม่เงินอุดหนุนผู้มีรายได้น้อย ทั้งรูปไฟฟ้า แอลพีจี เอ็นจีวี เกือบ 6,000 ล้านบาทต่อปีใหม่ โดยไฟฟ้าต้องให้คลังเป็นผู้จ่ายแทนการดึงเงินจากผู้ใช้ไฟรายอื่นมาอุดหนุน ขณะที่แอลพีจี-เอ็นจีวีต้องอุดหนุนผ่านกองทุนน้ำมันฯ แทน ปตท.
นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงานกล่าวว่า จากคำพิพากษาศาลปกครองกลางที่ให้รัฐบาลยกเลิกการนำเงินจากผู้ใช้ไฟฟ้ารายอื่นไปอุดหนุนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านที่อยู่อาศัยติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ที่ไม่เป็นนิติบุคคลและต้องใช้ไฟไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ทำให้ขณะนี้กระทรวงพลังงานต้องทำฐานข้อมูลให้แก่กระทรวงการคลังซึ่งคลังกำลังพิจารณาหลักเกณฑ์ในการอุดหนุนใหม่
ปัจจุบันรัฐอุดหนุนค่าไฟให้แก่ผู้มีรายได้น้อยดังกล่าวที่ใช้ไฟติดต่อกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีประมาณ 3 ล้านราย เงินอุดหนุนอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทต่อปี โดยเดือนมีนาคมอุดหนุนที่ 204.11 ล้านบาท จำนวน 71.45 ล้านหน่วย นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังอุดหนุนผู้มีรายได้น้อยและหาบเร่แผงลอย ด้วยราคาแอลพีจี 18.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และเอ็นจีวี รถสาธารณะ 10 บาทต่อ กก. ซึ่งเงินอุดหนุนมาจาก บมจ.ปตท.
อย่างไรก็ตาม ตามนโยบายที่กำหนด คือ หากร่าง พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชิง ที่กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นอยู่ในขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และมีผลบังคับใช้เงินอุดหนุนก็จะมาจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้มาจาก ปตท. ทั้งนี้ สำหรับเกณฑ์การพิจารณาอุดหนุนราคาแอลพีจีพิจารณาจาก ครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่เกิน 90 หน่วย โดยเดือนเมษายน 2560 มีประมาณอยู่ที่ 7,456,933 ครัวเรือน จำนวนผู้ไม่มีไฟฟ้าใช้อยู่ที่ 112,934 ครัวเรือน รวม 7.57 ล้านราย ส่วนร้านค้า หาบเร่แผงลอยอาหารอยู่ที่ 382,812 ราย เงินอุดหนุน ราว 360 ล้านบาทต่อปี ส่วนเอ็นจีวีรับทราบว่ามีการอุดหนุนราว 200 ล้านบาทต่อเดือน (2,400 ล้านบาทต่อปี)
“สนพ.ได้เปิดให้แสดงความเห็น “ร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ... ผ่านทางเว็บไซต์ www.eppo.go.th เป็นการดำเนินงานตาม ม.77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 โดย เปิดรับฟังตั้งแต่ถึงวันที่ 2 พฤษภาคม ถึงวันที่ 1 มิถุนายน 2560” นายทวารัฐกล่าว
นายทวารัฐกล่าวถึงการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือพีก ว่าเมื่อวันที่ 4 พ.ค.เวลา 13.27 น. ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเกิน 30,000 เมกะวัตต์แล้ว โดยอยู่ที่ 30,096.4 เมกะวัตต์ เนื่องจากอากาศร้อน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทำลายสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือพีกปี 2559 ที่ 31,365 เมกะวัตต์