xs
xsm
sm
md
lg

SMEs รากหญ้า! รอลุ้น “อุตตม”-“สมคิด” ถกคลอดแพกเกจหนุน 5 พ.ค.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“อุตตม” เผยเวทีประชุมสานพลังประชารัฐกลุ่มเอสเอ็มอี วันที่ 5 พ.ค.ที่จะมี “สมคิด” ร่วมรับฟัง เตรียมหารือทุกฝ่ายคลอดมาตรการสนับสนุนทั้งการเงินและอื่นๆ ชุดใหม่สำหรับเอสเอ็มระดับจิ๋ว (Micro SMEs) ที่เป็นระดับรากหญ้า พร้อมเตรียมกำหนดการสัมมนาสัญจรต่างจังหวัด นำร่อง 8 จว.เพื่อกระจายความช่วยเหลือสู่ภูมิภาค




นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 5 พ.ค.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการสานพลังประชารัฐกลุ่มเอสเอ็มอี (D2) โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมรับฟัง และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (สสว.) ฯลฯ โดยจะเป็นครั้งแรกที่จะนำเสนอชุดมาตรการใหม่ที่จะพิจารณามาตรการช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและที่ไม่ใช่ด้านการเงินครอบคลุมไปยังเอสเอ็มอีขนาดจิ๋ว (Micro SMEs)

“กระทรวงฯ มีเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนเอสเอ็มอีไปสู่ยุค 4.0 ซึ่งปรับทั้งระบบที่จะต้องให้สอดรับกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ดังนั้นจึงต้องเชื่อมโยงกันและเป็นการเชื่อมโยงในระดับพื้นที่ด้วย จึงต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กันไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นต้องมองไปที่เอสเอ็มอีขนาดเล็กมากที่มีแรงงานต่ำกว่า 5 คนยังไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลซึ่งเป็นระดับรากหญ้า วันที่ 5 พ.ค.นี้ผมในฐานะประธานร่วมประชุมจะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปและนำไปสู่การปฏิบัติได้ปลายเดือน พ.ค.นี้” นายอุตตมกล่าว

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือเอสเอ็มอีขนาดจิ๋วจะมีการปรับแนวทางด้วยการดึงเงินจากมาตรการช่วยเหลือด้านเอสเอ็มอีรวม 38,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเอสเอ็มอี ทรานส์ฟอร์เมชั่น โลน วงเงิน 15,000 ล้านบาท ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีของ สสว. วงเงิน 2,000 ล้านบาท และกองทุนพลิกฟื้นของ สสว. วงเงิน 1,000 ล้านบาท นำมาช่วยเหลือด้วยการให้กู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ ส่วนมาตรการที่ไม่ใช่การเงินจะมีมาตรการฝึกอบรม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังจะมีการหารือความช่วยเหลือที่จะลงไปสู่พื้นที่ในระดับภูมิภาค ระดับจังหวัดด้วยการจัดงานสัมมนาสัญจร ซึ่งจะมีการออกกำหนดการออกมาให้ชัดเจน โดยจะนำร่องใน 8 จังหวัดก่อน ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ และพิษณุโลก ภาคกลาง ที่ จ.นครปฐม และชลบุรี ภาคอีสาน ที่ จ.อุดรธานี และอุบลราชธานี ภาคใต้ ได้แก่ จ.กระบี่ และสงขลา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนของกองทุนฯ 20,000 ล้านบาทนั้นเริ่มมีการทยอยขอมาบ้างแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น