“อุตตม” โชว์ผลสำเร็จการเยือนฮ่องกงร่วมกับ “สมคิด” ดัน “สสว.” ลงนามกับ HKTDC ร่วมพัฒนาเอสเอ็มอี วางกรอบเพิ่มองค์ความรู้และช่องทางตลาดสู่เวทีสากล จ่อนำร่องคัดสินค้าไทย 200 รายขึ้นเว็บไซต์ HKTDC ด้านทัพธุรกิจ 50 รายจากฮ่องกงมาไทยจ่อจัดเวทีสัมมนาดึงลงทุน 8 พ.ค.นี้
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการเดินทางไปเยือนฮ่องกงร่วมกับคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระหว่าง 26-29 เม.ย.ว่า จากการเดินทางไปเยือนฮ่องกงครั้งนี้ได้มีการลงนาม(MOU) ของสองฝ่าย โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) กับองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) เพื่อส่งเสริมและร่วมมือในการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ร่วมกัน
โดยแนวทางการร่วมมือจะเน้นกรอบกิจกรรม 2 ด้านหลักๆ ได้แก่ 1. การสร้างทักษะองค์ความรู้ให้กับเอสเอ็มอีเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมอาหาร แฟชั่น เครื่องใช้ในครัวเรือน ของขวัญ ซึ่งไทยมีจุดแข็งและไทยสามารถจะใช้ฮ่องกงไปสู่เวทีตลาดโลกได้ 2. การพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เข้าสู่ตลาดสากลเป็นการสร้างช่องทางการค้าขายรูปแบบใหม่ ซึ่งทาง HKTDC จะเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการไทยนำร่อง 200 รายขายสินค้าผ่านเว็บไซต์โดยจัดเป็นโซนสินค้าไทยให้โดยเฉพาะ
“HKTDC มีเว็บไซต์ที่พร้อมจะให้ผู้ประกอบการของไทยนำสินค้าไปขายผ่านเว็บของเขาได้แต่เราเองจะต้องคัดเลือกก่อนว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายอะไรบ้าง จากนั้นจึงจะรู้ว่าจะก่อให้เกิดมูลค่าการค้าขายเท่าใด ไทยเองมีเป้าหมายพัฒนาเอสเอ็มอีไปสู่ 4.0 ซึ่งฮ่องกงถือเป็นต้นแบบที่ดีและไทยเองก็เป็นเกตเวย์ที่จะทำให้ฮ่องกงก้าวไปสู่ตลาด CLMVT คือ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า เวียดนาม และไทย” นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ ทาง HKTDC ยังเสนอความร่วมมือที่จะสนับสนุนด้านเงินทุนให้แก่เอสเอ็มอีไทยในลักษณะการร่วมจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนเอสเอ็มอี (จอยต์เวนเจอร์ เอสเอ็มอี ฟันด์) ซึ่งไทยเองก็มีรูปแบบดำเนินการเช่นนี้กับประเทศเกาหลีอยู่ ดังนั้นก็จะนำมาพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ การลงนามเพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีลักษณะดังกล่าวได้ร่วมกับเกาหลีไปแล้วและต่อจากนี้ก็มองไปที่ญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม วันที่ 8 พ.ค.นี้ทาง HKTDC จะนำคณะนักลงทุนประมาณ 50 คนซึ่งเป็นธุรกิจประเภท โครงสร้างพื้นฐาน ลอจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เดินทางมายังไทยซึ่งจะร่วมเข้าสัมมนาที่จะร่วมมือดำเนินการระหว่างรัฐโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์และเอกชน ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่จะมีความร่วมมือระหว่างการค้าและการลงทุนร่วมกันโดยเฉพาะการนำเสนอนโยบาย 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และโอกาสการพัฒนาเอสเอ็มอี