“เฮงเค็ล” ชี้ศักยภาพไทยเอื้อธุรกิจ “ตลาดเกิดใหม่”

ผู้จัดการรายวัน 360 - “เฮงเค็ล” ชี้ 4 ปัจจัยหนุนไทยมีศักยภาพเอื้อธุรกิจเทคโนโลยีกาวและผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ เผยปี 59 สร้างยอดขายจากตลาดเกิดใหม่ 42% จากยอดขายรวมทั่วโลก 1.87 หมื่นล้านยูโร กำหนดแผน “เฮงเค็ล 2020+” หวังยอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นปีละ 2-4% พร้อมพัฒนาแผนดิจิตอลสำหรับบริการและธุรกิจ มุ่งยอดขายเฉพาะช่องทางดิจิตอล 4 พันล้านยูโรภายในปี 2563

นายอีริค อีเดลแมน ประธาน บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “เฮงเค็ล” ถือเป็นผู้นำตลาดเทคโนโลยีกาว (Adhesive Technologies) และผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ในประเทศไทย ทั้งในส่วนของธุรกิจค้าปลีกด้านเส้นผม (Beauty Care Retail) และผลิตภัณฑ์เส้นผมระดับมืออาชีพ (Beauty Care Professional) ซึ่งดำเนินงานมาแล้วเป็นเวลา 45 ปี โดยเห็นว่าประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ที่มีศักยภาพจากปัจจัย 4 ด้าน คือ 1. ฐานผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง 2. อัตราการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อสูง 3. เป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น และ 4. เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาคอาเซียน

ในปี 2559 “เฮงเค็ล” มียอดขายทั่วโลกเติบโตขึ้น 3.1% คิดเป็นมูลค่า 1.87 หมื่นล้านยูโร โดย 42% เป็นยอดขายจากตลาดเกิดใหม่ เช่น ไทย เวียดนาม จีน ยุโรปตะวันออก และละตินอเมริกา ขณะที่มียอดขายจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 3.2 พันล้านยูโร จึงมีนโยบายการสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืนใน 4 ด้าน คือ 1. การสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับลูกค้าและผู้บริโภค เพื่อลดความสูญเสียและการใช้พลังงาน 2. การเติบโตระยะยาว 3. การเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน และ 4. ความรับผิดชอบต่อสังคม

“เฮงเค็ล” ยังกำหนดยุทธศาสตร์ “เฮงเค็ล 2020+” เพื่อให้มียอดขายทั่วโลกเพิ่มขึ้นปีละ 2-4% จนถึงปี 2563 พร้อมกับมีการลงทุนเพื่อการเติบโตที่ชัดเจนใน 3 ด้าน คือ 1. การขับเคลื่อนเติบโต 2. การเร่งพัฒนาดิจิตอล และ 3. การเพิ่มความคล่องตัวด้านสมรรถนะการทำงาน โดยมีเป้าหมายการพัฒนาดิจิตอลสำหรับบริการและธุรกิจ เพื่อเพิ่มยอดขายจากช่องทางดิจิตอลเป็นมูลค่า 4 พันล้านยูโรภายในปี 2563 หรือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 1 เท่าตัว โดยเน้นสร้างการรับรู้แบบดิจิตอลในห่วงโซ่คุณค่า การปรับโครงสร้างองค์กรเป็น e-Transform พร้อมอบรมด้านดิจิตอลให้พนักงานทั่วโลกกว่า 5 หมื่นคน คิดเป็นพนักงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 21%

ในส่วนของประเทศไทยได้มีการพัฒนาระบบการจัดการ POD ที่สามารถให้ข้อมูลและบริการด้านผลิตภัณฑ์ในส่วนของเทคโนโลยีกาวในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านกระบวนการและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคู่ค้ากับลูกค้าในลักษณะ B2B ส่วนธุรกิจบิวตี้แคร์ระดับมืออาชีพมีการออกแอปพลิเคชัน “House Of Color” ทั้งระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กลุ่มแฮร์สไตล์ลิสต์ รวมทั้งให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวกับผู้บริโภค

อนึ่ง บริษัท เฮงเค็ล (ประเทศไทย) จำกัด มีโรงงาน 3 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีกาวในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรปราการ รวมถึงโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ จ.ชลบุรี โดยผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ และบางส่วนส่งออกไปยังลาว กัมพูชา และพม่า เป็นต้น