การเปิดหีบอ้อยฤดูผลิตปี 2559/60 ที่เริ่มต้นเปิดหีบตั้งแต่ ธ.ค. 60 แม้ว่าผลผลิตอ้อยจะตกต่ำกว่าฤดูผลิตที่ผ่านมาแต่ภาพรวมต่างๆ ก็ยังเป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายของปี 59/60 นี้จะอยู่ในระดับสูงกว่าราอ้อยขั้นต้นที่กำหนดไว้ 1,050 บาทต่อตัน และชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินเพิ่มจากโรงงาน
การเปิดหีบอ้อยฤดูผลิตปี 59/60 ที่เริ่มตั้งแต่ 6 ธ.ค. 59 จนถึงขณะนี้ภาพรวมส่วนใหญ่ปิดหีบแล้วเหลือเพียง 2-3 แห่งที่เก็บเกี่ยวอ้อยที่ตกค้าง ทำให้สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายประเมินว่าอ้อยเข้าหีบฤดูนี้จะได้ไม่เกิน 93 ล้านตัน ต่ำกว่าฤดูหีบปีที่แล้วที่มีอ้อยเข้าหีบ 94.5 ล้านตันอ้อยแต่คุณภาพผลผลิตอ้อยในปีนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประกอบกับการเพิ่มประสิทธิภาพด้านกระบวนการผลิตน้ำตาลของโรงงานทุกแห่งส่งผลดีต่อผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อย (ยิลด์) เพิ่มขึ้นเป็น 107.9 กิโลกรัม เทียบกับระยะเวลาหีบอ้อยปีก่อนที่มียิลด์อยู่ที่ 104.1 กิโลกรัมหรือเพิ่มขึ้นประมาณเกือบ 4 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ส่งผลให้มีปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายได้แล้ว 10 ล้านตัน สูงกว่าปีก่อนที่ผลิตน้ำตาลทรายได้เพียง 9.8 ล้านตัน
“ค่าความหวานเฉลี่ยในอ้อยใกล้เคียงกับปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 12.27 ซีซีเอส จากปีก่อนที่มี 11.95 ซีซีเอส ส่งผลให้ชาวไร่อ้อยมีรายได้จากการเพาะปลูกอ้อยเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยราคาอ้อยขั้นสุดท้ายของปี 59/60 นี้จะอยู่ในระดับสูงกว่าราคาอ้อยขั้นต้น 59/60 ที่ประกาศ และชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินเพิ่มจากโรงงาน” นายสิริวุทธ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าว
สำหรับฤดูหีบอ้อยปี 60/61 ปัจจัยที่เอื้อให้มองว่าผลผลิตอ้อยจะดีขึ้นเนื่องจากการเพาะปลูกตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาเริ่มมีฝนตกในหลายพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อตออ้อยที่ชาวไร่ลงใหม่ ซึ่งต่างจากฤดูผลิตปี 58/59 ที่ประสบภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงนาน ประกอบกับชาวไร่บางรายได้เพิ่มจำนวนพื้นที่เพาะปลูกอ้อยจึงทำให้คาดการณ์ว่าอ้อยจะเพิ่มมากกว่า 93 ล้านตัน