“สตาร์บัคส์ ประเทศไทย” ร่วมกับ “ดี. เมเจอร์ โคเฮน” คอฟฟี่ แอมบาสเดอร์ จาก “สตาร์บัคส์ คอฟฟี่” และบาริสต้า สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ประเทศไทย เปิดตัวสุดยอดกาแฟหายากประจำฤดูกาล 3 รสชาติใหม่จากลาตินอเมริกา ต้อนรับหน้าร้อนกับรสชาติกาแฟผ่านกระบวนการพิเศษ เพื่อดึงรสชาติเฉพาะของเมล็ดกาแฟมาได้อย่างลงตัว ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2560 เป็นต้นไป
สตาร์บัคส์ ประเทศไทย แนะนำ “สตาร์บัคส์ รีเสริ์ฟ คอสต้าริกา วิสต้า เดล แมร์ เยโล่ฮันนี่” (Starbucks Reserve Costa Rica Visa Del Mar Yellow Honey) ที่มอบความสดชื่นมีชีวิตชีวาด้วยรสชาติส้ม พร้อมความนุ่มละมุนของรสแอปเปิ้ลเขียว, น้ำผึ้ง และความหวานจากน้ำตาลอ้อย ด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบเยลโล่ฮันนี่ซึ่งเป็นการดึงรสชาติที่มีคุณลักษณะพิเศษสุดของกาแฟจากเวสวาเล่ย์ ประเทศคอสตาริก้า โดยการนำเมล็ดกาแฟที่กระเทาะเปลือกออกแล้วไปตากพร้อมกับเยื่อหุ้ม (Mucilage) จนแห้งเพื่อให้เปลือกเยื่อหุ้มเหนียวและมีสีเหลือง เหมือนน้ำผึ้งที่ติดกับเมล็ดกาแฟ ก่อนจะมาขัดสีเยื่อหุ้มออก เพื่อดึงความหวานและรสชาติของผลไม้ออกมาเพื่อสร้างรสชาติที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของตัวกาแฟ เหมาะกับการดื่มและรับประทานพร้อมขนมที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล
“สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ นิการากัว ลา โรคา” (Starbucks Reserve Nicaragua La Roca) มอบความหอมกรุ่นกลิ่นดอกชบาส้ม เจือด้วยความหอมหวานของลูกพลัมแดง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรสชาติจากแหล่งเพาะปลูกแถบ ลา โรคา ซึ่งมีชื่อเสียงในการผลิตเมล็ดกาแฟในกลุ่มพิเศษที่มีความชำนาญในการผสมผสานผลเชอรี่กาแฟหลากสายพันธุ์เพื่อสร้างความแตกต่างในรสชาติ เหมาะกับการดื่มและรับประทานคู่กับคุกกี้ เค้ก และขนมหวานที่มีส่วนผสมของเปลือกส้มและมิคล์ช็อคโกแลต
“สตาร์บัคส์ รีเสิร์ฟ บัวโนส ไอเรส นิการากัว มาราคาทูร่า” (Starbucks Reserve Buenos Aires Nicaragua Maracaturra) พิเศษด้วยกลิ่นของสมุนไพร เจือกลิ่นของแอปปริคอต พีช และน้ำผึ้ง โดยชื่อ “มาราคาทูร่า” (Maracaturra) เป็นชื่อสายพันธุ์กาแฟอะราบิกาที่หายากสายพันธุ์หนึ่งของโลกที่เกิดจากการผสมสายพันธุ์ และค้นพบขึ้นเมื่อค.ศ.1800 โดยเป็นการผสมสายพันธุ์แบบธรรมชาติของละอองเกสรระหว่างสายพันธุ์ “มาราโกกิบ” (Maragogype) ที่มีเมล็ดกาแฟมีขนาดใหญ่ และสายพันธุ์ “คาทูร่า” อีกหนึ่งสายพันธุ์อะราบิกาดั้งเดิมที่เพาะปลูกในอเมริกากลาง กาแฟอะราบิกาที่หายากนี้เหมาะกับการดื่มและรับประทานร่วมกับผลไม้รสเปรี้ยว เครื่องเทศอบ ถั่ว และช็อคโกแลต
“ดี. เมเจอร์ โคเฮน” คอฟฟี่ แอมบาสเดอร์ จาก “สตาร์บัคส์ คอฟฟี่” ในฐานะผู้พัฒนาโครงการเกี่ยวกับชาและกาแฟให้กับสตาร์บัคส์ กล่าวว่า สตาร์บัคส์ใช้เวลามากมายในการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อเสาะหากาแฟคุณภาพเยี่ยมที่ให้รสชาติน่าหลงใหลและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างไรก็ดี จากเมล็ดกาแฟกว่าพันตัวอย่างที่ได้พบ มีเพียงไม่กี่สถานที่ที่มอบกาแฟที่มีรสชาติอันโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ และได้รับการคัดสรรมาเป็นกาแฟในกลุ่ม Starbucks Reserve สุดยอดกาแฟหายากในแต่ละฤดูกาล
“สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ สนับสนุนและเลือกสรรกาแฟจากผู้ปลูกกาแฟที่ดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายแนวทางปฏิบัติ C.A.F.E Practices และส่งเสริมชุมชนชาวไร่กาแฟที่ตั้งใจและมุ่งมั่นเพาะปลูกกาแฟด้วยความพิถีพิถันแม้จะมาจากต่างฟาร์มในพื้นที่เดียวกันเพื่อคงเอกลักษณ์และคุณภาพที่เยี่ยมยอดของกาแฟจากแหล่งเพาะปลูกของพวกเขาเหล่านั้นอย่างยั่งยืนร่วมกัน”
เพื่อเป็นการยกระดับ “ประสบการณ์สตาร์บัคส์” ไปอีกขั้น ลูกค้าสตาร์บัคส์ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การดื่มด่ำกาแฟสตาร์บัคส์อันน่ารื่นรมย์จาก Starbucks Reserve Experience Bar ได้ที่ ร้าน Starbucks Reserve Experience Store ที่ศูนย์การค้าเกสร และ All Seasons Place สาขาที่ 2 ที่เปิดโอกาสให้คอกาแฟดำได้สัมผัสศาสตร์และศิลปะการชงกาแฟหลายรูปแบบอย่างพิถีพิถัน ประณีตบรรจง และใกล้ชิด ได้แก่ Pour-Over Cone Brew, Siphon, Chemex และ Coffee Press และสุดยอดเครื่องชงกาแฟ Victoria Arduino - VA388 Black Eagle เครื่องชงกาแฟแบบไฮบริดที่มาพร้อมนวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อส่งมอบเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่รสชาติดีที่สุด และคุณภาพดีที่สุดสม่ำเสมอในทุกๆ แก้ว โดยฝีมือของคอฟฟี่มาสเตอร์ทั้งร้าน