“สศอ.” เคาะ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายพัฒนาเร่งด่วนระยะแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป, ยานยนต์และชิ้นส่วน, หุ่นยนต์, เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ, สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม กำหนดเป้าหมายให้เป็นรูปธรรมในปี 2560 พร้อมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากกองทุนเพิ่มขีดแข่งวงเงินหมื่นล้านบาท
นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินนโยบายตามแนวทางของรัฐบาล โดยกำหนดเป้าหมาย 5 อุตสาหกรรม S-Curve ชุดแรกเร่งด่วน ประกอบด้วย อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป, อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน, อุตสาหกรรมหุ่นยนต์, อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มซึ่งกำหนดจะต้องเป็นรูปธรรมภายในปี 2560 ซึ่งการขับเคลื่อนจะเป็นรุปแบบประชารัฐ พร้อมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากการขับเคลื่อนกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย วงเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาทเพื่อให้สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น
สำหรับเป้าหมาย 5 อุตสาหกรรม มีดังนี้ 1. อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป ปรับโครงสร้างไปสู่ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ นวัตกรรมอาหารเชิงสุขภาพ การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) การยกระดับวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตยา สมุนไพร และอาหารทางการแพทย์ให้มีการผลิตเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น 2. อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน จะสร้างให้เกิดการลงทุนผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) และการผลิตชิ้นส่วนสำคัญภายในประเทศ ควบคู่กับผลักดันให้มีศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อ 3. อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ กำหนดเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำอาเซียนด้านการผลิต/การใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอาเซียน โดยมีเทคโนโลยีเป็นของตนเอง ผ่านการจัดตั้ง Center of Excellence เพื่อเป็นศูนย์อัจฉริยะด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บุคลากร และเทคโนโลยี และส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเป็นหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติให้มากขึ้น
4. อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ตั้งเป้าหมายให้เกิดการพัฒนาสู่การเป็นเศรษฐกิจชีวภาพ “Bioeconomy” ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมเป็นอย่างมากด้านวัตถุดิบทางการเกษตรในการนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชีวภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป้าหมาย เช่น ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ชนิดพิเศษ และผลิตภัณฑ์ชีวภาพอื่นๆ ที่มีมูลค่าสูง เป็นต้น 5. อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม วางเป้าผลักดันกรุงเทพฯ ไปสู่ 1 ใน 5 Fashion Capital of Asia ภายในปี พ.ศ. 2579 ฯลฯ
“อุตสาหกรรมเหล่านี้จะสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่จะขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยในอนาคตไปสู่การมีรายได้สูงขึ้น” นายศิริรุจกล่าว