xs
xsm
sm
md
lg

เทรนด์ใหม่! โชว์รูมรถยนต์แห่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปประหยัดไฟ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เสนาโซลาร์ฯ เผยโชว์รูมรถยนต์ฮิตติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปประหยัดค่าไฟเพิ่มขึ้น เหตุมีปัจจัยเอื้อทั้งพื้นที่หลังคา ทำงานช่วงกลางวัน ขณะที่เทรนด์ญี่ปุ่นไปไกลติดโซลาร์ป้อนรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว คาดไทยหลังรัฐส่งเสริม EV ต้องรอให้กลไกทำงานอีกพักใหญ่

น.ส.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการหมู่บ้านใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) เต็มรูปแบบรายแรกของไทย ในเครือบริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าแนวโน้มโชว์รูมรถยนต์ภายในประเทศมีทิศทางหันมาติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคามากขึ้น (โซลาร์รูฟท็อป) เนื่องจากมีปัจจัยเอื้อจากเป็นอาคารสูง มีการทำงานช่วงกลางวันเป็นหลัก และมีพื้นที่หลังคามากพอที่จะติดตั้งทำให้โชว์รูมรถยนต์ต่างหันมาติดตั้งมากขึ้นต่อเนื่องเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า

“เรามีบริษัทในเครือที่รับติดตั้งแผงโซลาร์ฯ ก็พบว่าช่วงนี้เป็นเทรนด์ของโชว์รูมรถยนต์ที่หันมาติดตั้งกันมากเพื่อประหยัดค่าไฟ นอกเหนือจากโครงการของเสนาที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับบ้านและคอนโดมิเนียม” น.ส.เกษรากล่าว

สำหรับเทรนด์ของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV มากขึ้น ซึ่งของไทยนั้นแม้ว่ารัฐบาลได้กำหนดมาตรการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมทุกประเภทแต่ก็ต้องรอให้กลไกทั้งหมดนี้ทำงาน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 10-20 ปี แต่ในแง่ของเสนาฯ ก็ต้องเตรียมตัวรองรับไว้เผื่ออนาคตเช่นกันด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า หรือ EV Charging Station ภายในโครงการของเสนาฯ ซึ่งขณะนี้ได้นำร่องไปแล้ว 4 แห่งและจะขยายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การชาร์จไฟให้กับรถยนต์เปรียบเสมือนการขายไฟอนาคต รัฐบาลจำเป็นต้องชัดเจนในประเด็นดังกล่าวเนื่องจากรัฐกำหนดให้การไฟฟ้าฯ จำหน่ายไฟได้เท่านั้น

ส่วนแนวโน้มต้นทุนแผงโซลาร์เซลล์คาดว่าจะยังคงลดลงต่อเนื่องเพราะตลาดมีผู้ผลิตมากทำให้เกิดการแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งในช่วง 1-2 ปีมานี้ราคาแผงเฉลี่ยลดลงมากกว่า 50% ซึ่งอนาคตเห็นว่าหากการพัฒนาแบตเตอรี่ตอบโจทย์การสะสมพลังงานได้มากและราคาต่ำลงรัฐเองก็คงไม่จำเป็นจะต้องมากำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แต่อย่างใด ขณะที่นโยบายการรับซื้อไฟฟ้ารูปแบบผสมผสานเชื้อเพลิงที่ต้องเดินเครื่องต่อเนื่อง หรือ SPP Hybrid Firm ซึ่งมีอัตรารับซื้อที่สะท้อนต้นทุน หรือ Feed in Tariff (FiT) 3.66 บาทต่อหน่วย ซึ่งเสนาฯ สนใจที่จะเข้าร่วมแต่ก็ยอมรับว่าในแง่ราคานั้นค่อนข้างยากพอสมควร
กำลังโหลดความคิดเห็น