“กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน” เผยกฎหมายบังคับอาคารประหยัดพลังงานเริ่มใช้ต้นปี 61 ด้าน 5 อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ พร้อมนำร่องออกแบบก่อสร้างตามเกณฑ์ BEC
กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ. ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 5 ราย ได้แก่ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย, บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท, บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา, บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และบริษัท นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ ส่งเสริมการออกแบบอาคารและที่อยู่อาศัยเพื่ออนุรักษ์พลังงานตามกฎหมาย บังคับใช้เกณฑ์การออกแบบอาคารใหม่ด้านพลังงาน (Building Energy Code) หรือ BEC
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า พพ.อยู่ระหว่างร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง ปรับปรุงร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทหรือขนาดอาคารและมาตรฐานหลักเกณฑ์และวิธีการในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2552 เพื่อเสนอให้ (ครม.) เห็นชอบ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ช่วงต้นปี 2561 นำร่องจากอาคารขนาดใหญ่พื้นที่ตั้งแต่ 1 หมื่นตารางเมตรขึ้นไป ที่มีการก่อสร้างใหม่ประมาณ 100 อาคารต่อปี จากนั้นจะขยายการบังคับใช้กฎหมายไปยังอาคารที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรภายในปี 2562
สำหรับอาคารที่กำหนดจะครอบคลุมอาคาร 9 ประเภท ได้แก่ สถานพยาบาล สถานศึกษา สำนักงาน อาคารชุดอาคารชุมนุมคน โรงมหรสพ โรงแรม อาคารสถานบริการ และอาคารศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้า โดยจะต้องใช้เกณฑ์ BEC ซึ่งแนวทางการบังคับในช่วงต้นดังกล่าวจะก่อให้เกิดการประหยัดพลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้าได้ 74 ล้านหน่วยต่อปีหรือคิดเป็น 260 ล้านบาทต่อปีหรือคิดเป็นการประหยัดพลังงานในอาคารรวมได้ 10%
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดี พพ. กล่าวว่า ความร่วมมือนี้รองรับการบังคับใช้เกณฑ์การออกแบบอาคารใหม่ด้านพลังงาน (Building Energy Code : BEC) ที่ดำเนินการร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ปรับปรุงแก้ไขร่างกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ต้นปี 2561นำร่องอาคารขนาดใหญ่พื้นที่ตั้งแต่ 10,000 ตร.ม.ขึ้นไปก่อน ซึ่งจะมีประมาณ 100 อาคารขึ้นไปและทยอยบังคับใช้กับอาคารพื้นที่ 5,000 ตร.ม. (มีประมาณ 2,000 อาคาร/ปี ) ภายในปี 2562 และ ตั้งแต่ 2,000 ตร.ม. (มีประมาณ 4,500 แห่ง/ปี) ซึ่งจะลดการใช้พลังงานขั้นต่ำร้อยละ 10 ครอบคลุมอาคาร 9 ประเภท ได้แก่ สถานพยาบาล สถานศึกษา สำนักงาน อาคารชุด อาคารชุมนุมคน โรงมหรสพ โรงแรม อาคารสถานบริการ และอาคารศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้า
ทั้งนี้ ทาง พพ.จะร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อจัดกิจกรรมให้ความรู้การประชาสัมพันธ์เรื่องอาคารและบ้านประหยัดพลังงานสู่ผู้บริโภค การส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในการออกแบบอาคารและบ้านประหยัดพลังงาน การผลักดันและกระตุ้นตลาดการก่อสร้างอาคาร และบ้านประหยัดพลังงานให้แพร่หลาย
“พพ.จะบูรณาการการทำงานกับภาคขนส่งซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีการใช้พลังงานมาก เช่น สมาพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย โดยในอนาคตอาจกำหนดให้มีการใช้ยางรถยนต์แบบประหยัดพลังงาน รวมถึงสัปดาห์หน้าจะเข้าไปหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เพื่อบูรณาการการทำงานกับภาคอุตสาหกรรมด้วย” นายประพนธ์กล่าว