xs
xsm
sm
md
lg

กรมโรงงานผนึกยูเอ็นฯ เปิดเวทีพลิกโฉมอุตฯ ประมงลดโลกร้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงาน จับมือ ยูเอ็น เอ็นไวรอนเมนท์ ระดมนักวิชาการทั่วโลกจัดประชุมหาแนวทางบริหารจัดการเทคโนโลยีสารทำความเย็นอุตสาหกรรมประมงเพื่อลดโลกร้อน เหตุสารทำความเย็นไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน หรือ HCFCs ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซนก่อให้เกิดโลกร้อน โดยไทยมีห้องเย็นกว่า 881 แห่ง

นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ร่วมกับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก หรือยูเอ็น เอ็นไวรอนเมนท์ จัดการประชุมนานาชาติในภาคอุตสาหกรรมประมงเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์เพื่อช่วยประเทศภาคีสมาชิกภายใต้พิธีสารมอนทรีออล สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดลดและเลิกการใช้สารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการดำเนินงานในอนาคตของประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทยในการเตรียมความพร้อมเพื่อลดการใช้สารทำความเย็น HCFCs ในอุตสาหกรรมประมงและห้องเย็นอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ ไทยเป็นประเทศผู้ทำประมงติด 1 ใน 10 ของโลกที่มีผลผลิตสูง การส่งออกสินค้าในกลุ่มประมง ทั้งอาหารทะเลแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋อง และอาหารทะเลแปรรูปต่างๆ มีสัดส่วนการส่งออกค่อนข้างมากขึ้นทุกปี สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเพิ่มขึ้นของประชากรทั่วโลก ซึ่งจากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้ประเทศไทยใช้เครื่องทำความเย็นและสารทำความเย็นจำนวนมหาศาล ทั้งห้องเย็นที่ใช้ในเรือประมง ห้องเย็นที่ใช้ในการเรือเดินทะเลเพื่อส่งอาหารแช่แข็งไปจำหน่ายในต่างประเทศ รถห้องเย็นที่ใช้ขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งระหว่างโรงงานผลิตไปยังผู้จัดจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันไทยมีอุตสาหกรรมที่เป็นห้องเย็นกว่า 881 โรงทั่วประเทศ

“สารทำความเย็นมีส่วนผสมของสารที่เป็นสาเหตุทำลายชั้นโอโซนของโลก ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก และเป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยสารที่นำมาใช้กันแพร่หลายในอุตสาหกรรมประมง คือ ไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน หรือ HCFCs ก่อให้เกิดผลกระทบหลายด้าน เช่น ผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ และเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อระบบนิเวศวิทยา” นายสมชายกล่าว

นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากข้อมูลของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า ประเทศในอาเซียนทั้ง 10 ประเทศมีปริมาณการจับปลามากถึงหนึ่งในสี่ของปริมาณการจับปลาทั่วโลก ซึ่ง 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และ ฟิลิปปินส์ ถือเป็นประเทศที่มีการจับปลามาก 10 ลำดับแรกของโลก ซึ่งครั้งนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมก็จะนำความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากหลายประเทศไปช่วยผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประมง กิจการทำห้องเย็น และเรือประมงให้สามารถพัฒนาและใช้สารทดแทนเพื่อลดการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และพัฒนาประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์สูงสุด
กำลังโหลดความคิดเห็น