xs
xsm
sm
md
lg

“ฟู้ดแพชชัน” ตั้ง “อีเอฟจี” รุกบาร์บีคิวในกัมพูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท  ฟู้ดแพชชั่น จำกัด เควิน วิทคราฟท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - ฟู้ดแพชชั่นยิ้มแก้มปริ ได้ตัวผู้รับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าในกัมพูชาแล้ว เปิดตัว อีเอฟจี ยักษ์ด้านอาหารกัมพูชาคว้าไลเซนส์ คาดปีนี้เปิดใหม่ 2 สาขาก่อน

นางชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ผู้บริหารร้านบาร์บีคิวพลาซ่า กล่าวว่า บริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท อีเอฟจี จำกัด เป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าเป็นครั้งแรก เพื่อทำตลาดในประเทศกัมพูชาในรูปแบบแอเรีย ดีเวลลอปเมนต์ แฟรนไชส์ ทั้งนี้เป็นไปตามแผนงานขยายธุรกิจของบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นรีจินัลแบรนด์ ตั้งเป้าเปิดในต่างประเทศรวมไม่น้อยกว่า 30 สาขา ที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะกลุ่มซีแอลเอ็มวี

จากเดิมตลาดต่างประเทศ บาร์บีคิวพลาซ่าได้ใช้วิธีลงทุนร่วมกันกับพันธมิตรท้องถิ่นเปิดไปแล้ว 19 สาขา ใน 2 ประเทศ คือ ประเทศมาเลเซีย มี 17 สาขา และอินโดนีเซีย 2 สาขา คาดว่าภายในสิ้นปี 2560 จะมีจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 23 สาขา แบ่งเป็น 18 สาขาในมาเลเซีย และ 3 สาขาในอินโดนีเซีย และ 2 สาขาในกัมพูชา

บริษัทฯ เชื่อมั่นในศักยภาพของพันธมิตรที่เป็นผู้นำในธุรกิจอาหารในกัมพูชาอยู่แล้ว จากการทำตลาดแบรนด์ใหญ่ ขณะที่ศักยภาพของกัมพูชานั้น คือ 1. เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง มีจีดีพีเฉลี่ย 7% ในปี 2557 2. มีประชากรรุ่นใหม่ 13% ของจำนวนประชากรในพนมเปญ มีรายได้ 600-1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 21,000-35,000 บาทต่อเดือน ส่วนอีก 6% มีรายได้มากกว่า 35,000-70,000 บาทต่อเดือน 3. มีวัฒนธรรมความเป็นอยู่การกินอาหารใกล้เคียงกับคนไทย และ 4. มีทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์ของไทย
ชาตยา สุพรรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท  ฟู้ดแพชชั่น จำกัด
ด้วยปัจจัยบวกทั้ง 4 ด้าน ทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่าการเดินหน้ากลยุทธ์ขยายธุรกิจในประเทศกัมพูชาผ่านแบรนด์เรือธงอย่างบาร์บีคิวพลาซ่าจะสามารถประสบความสำเร็จตามเป้าที่วางไว้ รวมถึงความพร้อมของระบบแฟรนไชส์ทั้งหนังสือคู่มือแนะนำแบรนด์และการสร้างแบรนด์ พร้อมด้วยคู่มืออื่นๆ ที่เต็มไปด้วยข้อมูลและองค์ความรู้ในการบริหารจัดการและพัฒนาแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าในตลาดใหม่ รวมถึงทีมสนับสนุนการทำงานของแฟรนไซส์ทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้ระบบแฟรนไชส์ของบาร์บีคิวพลาซ่าเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้หลักคิดสำคัญ คือ เน้นการส่งมอบประสบการณ์ พร้อมมาตรฐานสินค้าและบริการในแบบฉบับบาร์บีคิวพลาซ่าให้กับลูกค้าทั่วภูมิภาค ที่จะส่งผลให้แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าของคนไทยจะสามารถสยายปีกทั่วภูมิภาคได้อย่างสง่างาม มั่นคงและยั่งยืน

“หลายปีที่ผ่านมาเราได้รับการติดต่อจากกลุ่มธุรกิจชั้นนำในหลายประเทศเพื่อขอซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ของบาร์บีคิวพลาซ่า ซึ่งนโยบายของฟู้ดแพชชั่นเรามีความชัดเจนในการขยายธุรกิจที่ไม่ได้เน้นการขยายสาขาจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้นเป็นหลัก แต่มองการสร้างฐานแบรนด์ร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าให้มีความยั่งยืนในระยะยาวเป็นเรื่องสำคัญ เราจึงมองหาพันธมิตรที่มีความคิดแบบเดียวกันที่จะช่วยส่งเสริมให้แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าเติบโตอย่างมั่นคงในดินแดนใหม่ ดังนั้น การขยายตลาดในต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกพันธมิตรผ่านกลยุทธ์สำคัญ 3 ข้อ คือ Win-Win Strategy ที่คำนึงถึงการดำเนินธุรกิจในอันที่จะสร้างผลประโยชน์ให้เกิดขึ้นร่วมกันทั้งสองฝ่าย Partnership Relations คือสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรแบบยั่งยืนบนพื้นฐานแห่งความเชื่อใจ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความคล่องตัวและราบรื่น และ Effective Support คือ สร้างระบบให้การสนับสนุนจากส่วนกลางที่ทำให้การดำเนินงานต่างๆ ในพื้นที่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก ได้มาตรฐาน และทันท่วงที ด้วย 3 กลยุทธ์นี้เราเชื่อว่าจะทำให้การขยายตลาดต่างประเทศเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเราพบว่า EFG คือพาร์ตเนอร์ที่จะสามารถเข้ามาช่วยตอบโจทย์ความสำเร็จของการขยายฐานร้านอาหารบาร์บีคิวพลาซ่าไปยังกัมพูชาได้อย่างดีที่สุด” นางชาตยากล่าวเสริม

นายเควิน วิทคราฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอ็มเอ กรุ๊ป จำกัด บริษัทแม่ของอีเอฟจี กล่าวว่า จะใช้งบลงทุนรวม 150 ล้านบาทขยายสาขาบาร์บีคิวพลาซ่าไม่น้อยกว่า 10 สาขา ภายในปี 2565 ซึ่งปี 60 นี้เปิด 2 แห่ง คือที่ พนมเปญ ในศูนย์การค้าอิออนมอลล์ และอีกสาขาเป็นสแตนด์อะโลนในย่านทูลคอร์กในพนมเปญ

นายเควิน วิทคราฟท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ เอ็ม เอ กรุ๊ป จำกัด บริษัทแม่ของ EFG ได้กล่าวว่า EFG ถือเป็นผู้นำในธุรกิจแฟรนไชส์ร้านอาหารชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้มีการดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว และพม่า โดยปัจจุบันมีการขยายแฟรนไชส์ผ่านแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำระดับโลกรวมกว่า 50 ร้านในกัมพูชา โดยที่ผ่านมามีความต้องการที่จะเพิ่มแบรนด์ร้านปิ้งย่างที่มีศักยภาพในพอร์ตธุรกิจ เนื่องจากร้านอาหารปิ้งย่างเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารในกลุ่ม Self-cooking ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกัมพูชา ดังนั้นเมื่อเห็นความสำเร็จของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่าในเมืองไทยและในต่างประเทศ รวมถึงระบบแฟรนไชส์ที่มีประสิทธิภาพของบาร์บีคิวพลาซ่า จึงทำให้เรามีความเชื่อมั่นที่จะนำประสบการณ์ของมื้ออาหารที่ดีที่สุดในแบบฉบับของบาร์บีคิวพลาซ่ามาสู่ชาวกัมพูชา

สำหรับภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในกัมพูชามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 มีมูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือกว่า 140,000 ล้านบาท) โดยปัจจุบันมีร้านอาหารที่จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เปิดให้บริการถึง 2,000-2,500 ร้านทั่วประเทศ และเฉพาะในพนมเปญมีจำนวนสูงถึง 1,000 ร้าน ส่วนที่เหลือกระจายอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น เสียมราฐ, เพร ศรีหะนุ, พระตะบอง, และกำปงจาม

นอกจากนี้ ปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจ อาทิ รายได้ประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้ชาวกัมพูชามีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนทำงานและผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ อีกทั้งไลฟสไตล์ที่เปลี่ยนไปของชาวกัมพูชารุ่นใหม่ที่นิยมการรับประทานอาหารนอกบ้านและการเฉลิมฉลองนอกบ้าน ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติของครอบครัวกัมพูชาและผู้บริโภควัยหนุ่มสาว โดยพบว่ามีอัตราเฉลี่ยของการออกมารับประทานอาหารนอกบ้านถึงคนละ 2-3 ครั้งต่อเดือน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายต่อหัวเฉลี่ยมื้อละ 5 ดอลลาร์ (สำหรับมื้อกลางวัน) และ 10 ดอลลาร์ (สำหรับมื้อค่ำ)

นอกจากนี้ นายเควินได้กล่าวถึงกลยุทธ์ธุรกิจและแผนการลงทุนในการขยายสาขาบาร์บีคิวพลาซ่าในกัมพูชาว่า กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดคือ การส่งมอบประสบการณ์ มาตรฐานสินค้าและบริการแบบต้นแบบของบาร์บีคิวพลาซ่าที่มีในเมืองไทยให้แก่ผู้บริโภคชาวกัมพูชา ซึ่งบาร์บีคิวพลาซ่าถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ยอดนิยมของชาวกัมพูชาที่ชอบเดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทย โดยวิธีการทำงานจะเน้นการบริหารธุรกิจตามกรอบของระบบแฟรนไชส์ที่วางไว้ ควบคู่การลงพื้นที่ฝึกอบรมพนักงานและตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพโดยทีมงานของฟู้ดแพชชั่น รวมไปถึงวัตถุดิบสำคัญทั้งหมดจะส่งตรงจากครัวกลางของฟู้ดแพชชั่นไปที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่าทุกสาขาในกัมพูชา เพื่อรับรองมาตรฐานรสชาติและความปลอดภัยในคุณภาพของอาหารให้แก่ผู้บริโภคทุกคน โดยกลยุทธ์การขยายสาขาจะเน้นไปที่พื้นที่ที่มีศักยภาพใจกลางเมือง ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมการตลาดผ่านกลยุทธ์การสร้าง Brand Love ที่เป็นเอกลักษณ์ของบาร์บีคิวพลาซ่า

“เบื้องต้นได้เตรียมงบลงทุนไว้กว่า 150 ล้านบาท ในการขยายสาขาบาร์บีคิวพลาซ่ารวมไม่น้อยกว่า 10 สาขา ภายในปี 2565 โดยปีนี้เราวางแผนเปิด 2 สาขากลางกรุงพนมเปญ สาขาแรกจะตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเมกะโปรเจกต์อิออนมอลล์ (AEON Mall) และอีกสาขาจะเปิดในย่านหรู Tuol Kork ในกรุงพนมเปญ” นายเควินกล่าวในตอนท้าย

ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมธุรกิจในต่างประเทศของแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า ในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 19 สาขา ใน 2 ประเทศที่ขยายผ่านโมเดล Joint Venture แบ่งเป็น 17 สาขาในมาเลเซีย, 2 สาขาในอินโดนีเซีย โดยคาดว่าสิ้นปี 2560 นี้จะมีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 23 สาขา แบ่งเป็น 18 สาขาในมาเลเซีย, 3 สาขาในอินโดนีเซีย และ 2 สาขาในกัมพูชา



กำลังโหลดความคิดเห็น