xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดจีนฉุดรายได้แอมเวย์กรุ๊ปร่วง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ดั๊ก เดอโวส ประธานแอมเวย์กรุ๊ป
ผู้จัดการรายวัน 360 - ประธานแอมเวย์กรุ๊ปยอมรับปีที่แล้วรายได้รวมโตลดลง 7% เหตุตลาดจีนกระทบหนัก มั่นใจจะฟื้นกลับมาเร็ว ชี้ต้องปรับตัวรับตลาดเปลี่ยน สร้างแพลตฟอร์มรุกออนไลน์

นายดั๊ก เดอโวส ประธานแอมเวย์ทั่วโลก เปิดเผยว่า ภาพรวมรายได้จากธุรกิจขายตรงของแอมเวย์ทั่วโลกเมื่อปี 2559 มีประมาณ 8.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตตกลง 7% ขณะที่ภาพรวมตลาดขายตรงทั่วโลกเฉลี่ยจะเติบโต 6-7% ซึ่งปี 2559 ตัวเลขตลาดรวมขายตรงทั่วโลกยังไม่สรุป ส่วนปี 2558 ตลาดรวมขายตรงทั่วโลกอยู่ที่ 180 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สาเหตุที่ขายตรงแอมเวย์ทั่วโลกปีที่แล้วตกลง เนื่องจากว่าภาวะเศรษฐกิจของจีนไม่ค่อยดีจึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมของแอมเวย์ในประเทศจีนและกระทบรายได้รวมทั่วโลกด้วย ซึ่งจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของแอมเวย์ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาจึงย่อมส่งผลเสียโดยตรงต่อแอมเวย์ทั่วโลกแน่นอน

สำหรับ 5 อันดับตลาดแอมเวย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดทั่วโลก คือ จีน, เกาหลี, อเมริกา, ญี่ปุ่น และไทย ซึ่งในตลาดอื่นกลับมีผลประกอบการที่ดี มั่นใจว่าแอมเวย์จีนจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในเร็วๆ นี้ เช่นที่เคยเกิดขึ้นในตลาดอื่นแล้วก็กลับมาเติบโตได้ดีเหมือนเดิม

สำหรับภูมิภาคที่มีผลประกอบการดี คือ เอเชียแปซิฟิก ซี่งมีสัดส่วนยอดขายสูงสุดถึง 46% ของยอดขายแอมเวย์ทั่วโลก ส่วนไทยก็ยังคงมั่นใจว่ายังเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก หลังจากที่ 2-3 ปีที่ผ่านมามีปัจจัยลบต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม จากผลการสำรวจของแอมเวย์พบว่าจำนวนประมาณ 77% ของประชากรทั่วโลกมีทัศนคติที่ดีจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งขายตรงก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ขณะที่จำนวนกลุ่มวัยรุ่นมีมากกว่านี้คือ 80% แต่หากคนที่มีความพร้อมและลงมือทำมีประมาณ 55% ส่วนในไทยจำนวนผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเองและมีความพร้อมและลงมือทำธุรกิจของตัวเองมีประมาณ 70% ซึ่งไทยจะยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ยอดขายเติบโต 6% มากกว่าตลาดรวมที่เติบโต 2-3% จากตลาดรวมขายตรงไทย 70,000 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะเติบโต 6% เช่นกัน

นายดั๊กกล่าวด้วยว่า เราต้องปรับตัวรองรับสภาวะตลาดและผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งแผนระยะยาวจากนี้ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนด้านเทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานในการทำธุรกิจ การผลิตสินค้า และการสร้างแพลตฟอร์มในช่องทางออนไลน์ที่คาดว่าอีก 2 ปีจากนี้จะเรียบร้อย ซึ่งเราใช้งบรวมสิ่งเหล่านี้มากกว่า 50% จากงบลงทุนรวม



กำลังโหลดความคิดเห็น