ผู้จัดการรายวัน 360 - “แพลทินัม” ปั้นฝันฮับอาเซียนค้าส่งย่านประตูน้ำใน 10 ปี เล็งอัดงบ 5,000 ล้านบาท ยึดพื้นที่ใหม่อีกกว่า 40,000 ตารางเมตร บนถนนเส้นเพชรบุรี และราชปรารภ นอกเหนือจากแผน 5 ปีกับ โครงการ เดอะ มาร์เก็ต และโรงแรม 2 แห่งที่เกาะสมุย ด้วยงบ 11,000 ล้านบาท มองทราฟฟิกยังดีต่อเนื่องส่งสิ้นปีรายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนปิดรายได้ 1,863 ล้านบาท โต 5%
นายชาญชัย พันธุ์โสภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT เปิดเผยว่า พื้นที่ค้าส่งย่านประตูน้ำยังมีทราฟฟิกที่ดีอยู่เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1 แสนคนต่อวัน และลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ จะนิยมซื้อสินค้าไปขาย ขณะที่ลาว พม่า และกัมพูชายังน้อยอยู่ จากโอกาสที่เกิดขึ้นทางบริษัทฯ มีแผนต้องการให้ภาพของเดอะแพลทินัม กรุ๊ป ใน 10 ปีข้างหน้านี้มีความเป็นฮับค้าส่งแบบครบวงจรมากขึ้น ด้วยการเพิ่มพื้นที่ค้าส่งใหม่ๆ เข้ามาอีก
โดยยังมองว่ายังมีพื้นที่ที่มีศักยภาพสามารถทำได้อยู่ทั้งในช่วงถนนเพชรบุรี และถนนราชปรารภ หากจะดำเนินการขึ้นจริงจะต้องมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 35,000-40,000 ตารางเมตร หรือต้องใช้เม็ดเงินอีกไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีเพียงศูนย์การค้า เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ เป็นค้าส่งเสื้อผ้าแฟชั่นอย่างเดียว
“ใน 10 ปีข้างหน้า ภาพของแพลทินัมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ในช่วง 5 ปีแรกนี้จะเน้นพัฒนาพื้นที่ในโปรเจกต์ที่มีอยู่ และ 5 ปีหลังจากนั้นจะเติมเต็มพื้นที่ใหม่ๆ เข้ามาเพื่อส่งให้ภาพของแพลทินัมก้าวขึ้นเป็นฮับค้าส่งในอาเซียนได้จริง โดยโปรเจกต์ใหม่ๆ นั้นเปิดรับทุกโมเดล และนอกจากแผนที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ค้าส่งใหม่แล้วยังมีทุนต่างชาติสนใจให้ร่วมทุนในต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน”
สำหรับแผนการดำเนินงาน 5 ปี (2560-2565) หลังจากนี้ยังคงโฟกัสอยู่ที่ 2 โปรเจกต์ใหญ่ ด้วยงบลงทุนรวมกว่า 11,000 ล้านบาท คือ 1. โครงการ เดอะ มาร์เก็ต ราชดำริ รวมกับอาคารสำนักงานและโรงแรม ลงทุน 10,000 ล้านบาท โดยในส่วนของค้าปลีกนั้นจะแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า อาคารสำนักงานและโรงแรมแล้วเสร็จในอีก 4 ปีข้างหน้า 2. โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ระดับ 3 ดาว และ 4 ดาว ที่เกาะสมุย ด้วยงบลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยในปีนี้จะใช้งบลงทุนราว 2,500-3,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้างในโปรเจกต์เหล่านี้เป็นหลัก และบริษัทยังมีกระแสเงินสดอยู่กว่า 5,000 ล้านบาท อีกทั้งหลังจากนี้บางโปรเจกต์จะเริ่มทยอยเปิดให้บริการและมีรายได้เข้ามา จึงไม่มีความจำเป็นในการออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุนสำหรับโปรเจกต์ใหม่ๆ
นายชาญชัยกล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 2,000 ล้านบาท พร้อมกำไรที่เติบโตขึ้น จากในปีที่ผ่านมาปิดรายได้ที่ 1,863 ล้านบาท โต 5% กำไรสุทธิ 704 ล้านบาท โต 12% มาจากค่าเช่าและบริการ 1,107 ล้านบาท โรงแรม 365 ล้านบาท ร้านอาหารเครื่องดื่ม 246 ล้านบาท และอื่นๆ อีก 145 ล้านบาท โดยในอีก 4 ปีข้างหน้าพื้นที่ให้เช่าจะเพิ่มเป็น 100,000 ตร.ม. จากปัจจุบันอยู่ที่ 33,000 ตารางเมตร ส่วนจำนวนห้องพักจากโรงแรมจะมีเพิ่มอีก 350 ห้อง จากปัจจุบันอยู่ที่ 283 ห้อง