xs
xsm
sm
md
lg

“ไมเนอร์”ไล่เทคโอเวอร์สินค้าเสริมพอร์ตดันรายได้หมื่นล. เปิดแผนดัน”เอแตม”รุกสมรภูมิชุดชั้นในชิงตลาด1.2หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น" เปิดแผนซื้อกิจการแบรนด์คนไทยค่า 1,000-3,000 ล้านบาท เข้าพอร์ตสินค้า หวังโต 3 เท่าตัวทะลุ 10,000 ล้านในปี 2563 พร้อมเขย่าตลาดปี 60ประเดิมแบรนด์ชุดชั้นในฝรั่งเศส เอแตม "ETAM" ชิงเม็ดเงินหมื่นล้าน ชูจุดขายดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ลูกไม้คุณภาพ นำเข้า 100% จับกลุ่มเป้าหมายระดับ พรีเมี่ยม กำลังซื้อสูง แข่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่ ทุ่มงบผุดเพิ่ม 8 สาขา ลุยสิ้นปีครบ 20 สาขา "จักร เฉลิมชัย" ตั้งเป้าฟันยอดขาย 3 ปีแตะพันล้าน มั่นใจธุรกิจเสื้อผ้าแฟชั่น-ชุดชั้นใน กระฉูดต่อเนื่อง เดินหน้าโรดแมพ ปี 62

นายจักร เฉลิมชัยรองประธานกลุ่มพัฒนาธุรกิจใหม่และอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งกลุ่มสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และเครื่องใช้ในครัวเรือนระดับโลก เปิดเผยว่า ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่นมียอดขาย 2,600 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา เติบโต 6% จากปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นและการเติบโตของธรุกิจในแบรด์เดิมจะสามารถเติบโตได้ประมาณปีละ 10%เท่านั้น แต่เนื่องจาก บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 2563 ไว้ 10,000 ล้านบาท

ดังนั้นบริษัทจึงจะใช้แผนการซื้อกิจการแบรนด์ชุดกีฬาและสินค้าไลฟสไตล์อีก 2-3 ยี่ห้อเข้ามาอยู่ในพอร์ตของไมเนอร์คอร์ปอเรชั่นในอนาคนอันใกล้ โดยขณะนี้มีการเจรจากับแบรนด์ไทยอยู่ราวๆ 10 แบรนด์ คาดว่าจะสรุปรายละเอียดในสิ้นปีนี้ โดยแบรนด์ที่จะซื้อกิจการเข้ามาในพอร์ต จะมีขนาดธุรกิจอยู่ระหว่าง 1,000-3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ แล้ว บริษัทยังคงเดินหน้าหาสินค้าใหม่ๆ มาจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทฟาสต์แฟชั่น ซึ่งไมเนอร์ยังไม่มีสินค้ากลุ่มนี้ ขณะที่สินค้าฟาสท์แฟชั่นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาแบรนด์สินค้าประเภทฟาสท์แฟชั่นจากอิตาลีและเยอรมัน เพื่อมาทำตลาดในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้

บริษัทพยายามจะลดบทบาทของสินค้าแฟชั่นบางประเภทลง และหันมารุกสินค้าไลฟ์สไตล์มากขึ้น โดยปีที่ผ่านมามีการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าใหม่ 4 แบรนด์อาทิ เสื้อผ้าแบรนด์บรูคส์บราเธอร์ กระเป๋าอเนลโลจากยี่ปุ่น และชุดชั้นในพรีเมียมจากฝรั่งเศสยี่ห้อ เอแตม เป็นสินค้าล่าสุด ทำให้ยอดขายของไมเนอร์คอร์ปอเรชั่นในปีที่ผ่านมาปิดที่ 2,600 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อนหน้านี้ถึง 6 เปอร์เซ็นต์ทั้งที่กำลังซื้อยังไม่ฟื้น และในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 3,200 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา

บริษัทได้ทำการเปิดตัวชุดชั้นในเอแตม (ETAM) ชุดชั้นในสตรี ระดับพรีเมี่ยมจากประเทศฝรั่งเศส อย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในประเทศ ชุดชั้นในที่เน้นดีไซน์คุณภาพของงานลูกไม้ฝรั่งเศส มีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ แพทเทิร์น ดูดีเหมาะกับไซส์ของคนไทย รวมถึงกลุ่มสินค้า Night wear วางกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อผลักดันยอดขายให้ได้ 1,000 ล้านบาท อีก 3 ปี จากตลาดรวมชุดชั้นในที่มีมูลค่ามากกว่า 12,000 ล้านบาท
แบรนด์ "เอแตม" ถือเป็นชุดชั้นในที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศฝรั่งเศส มียอดขายอันดับ 1 ติดต่อกัน 4 ปี ตั้งแต่ ปี 2013-2016 และเป็นแบรนด์ที่ครองใจสุภาพสตรีทั่วโลกมานานถึงหนึ่งศตวรรษ
"ภาพรวมตลาดชุดชั้นในมีขนาดใหญ่มาก เติบโตทุกปีและมีแนวโน้มเติบโตสูงกว่าตลาดเสื้อผ้าสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยม อายุ 25-35 ปี ที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการสินค้าแบรนด์เนมที่มีไลฟ์สไตล์ ดีไซน์สวย มีนวัตกรรมมากกว่าชุดชั้นในทั่วไป เพราะตลาดชุดชั้นในแฟชั่นในเมืองไทยยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นชุดชั้นในฟังก์ชั่นเกือบทั้งหมด ซึ่งเอแตม เป็นแบรนด์ที่มีมากกว่าคำว่าชุดชั้นใน ทั้งดีไซน์ คุณภาพงานลูกไม้ แพทเทิร์น มีความเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญสินค้าของเอแตมทั้งหมดนำเข้า 100% " นายจักร กล่าว

นางสาวดารารัตน์ บุญธรรม ผู้จัดการแบรนด์ชุดชั้นใน Etam (เอแตม) บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง แบรนด์ เอแตมว่า แบรนด์ "เอแตม" มีจุดแข็งในแง่ความ โดดเด่นของแบรนด์และตัวสินค้า มีทั้งสินค้าที่สวมใส่ได้ทุกวัน รวมไปถึงสินค้าที่ใส่สำหรับโอกาสพิเศษ กลุ่มบราแฟชั่น รูปแบบเซ็กซี่ สามารถมิกซ์ แอนด์ แมทช์ ในชีวิตประจำวันได้ เช่น สไตล์บราเลทที่มีขอบลูกไม้ยาว สามารถใช้เป็นเสื้อทับกับแจ็คเก็ตหรือเบลเซอร์ได้ รวมทั้งชุดนอนที่เป็น Night wear สามารถสวมใส่กับกางเกงยีนส์และแจ็คเก็ต กางเกงขาสั้นลูกไม้ ก็สามารถสวมใส่แบบสบายๆ สไตล์แคชชวลที่ดูดี ราคาเป็นราคาที่เหมาะสมและมีส่วนต่างจากราคาจำหน่ายในต่างประเทศไม่ถึง 15% กลุ่มชุดชั้นในลูกไม้ ปกติราคานำเข้าเริ่มต้นที่ราคา 2,000 กว่าบาท เอแตมจำหน่ายเริ่มต้นเพียง ราคา 1,290 - 1,890 บาท

ปัจจุบัน เอแตมมีช็อปทั้งหมด 12 สาขา แบ่งเป็น Free standing 5 สาขา Shop in shop 7 สาขา และปีนี้วางแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 8 แห่ง หรือภายในสิ้นปีจะมีทั้งหมด 20 สาขา โดยเพิ่ม Free Standing 1 สาขา และ Shop in shop 7 สาขา เน้นทำเลใจกลางเมืองท่องเที่ยวที่มีกลุ่มลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา โดยบริษัทเตรียมทุ่มงบลงทุนสร้าง Free Standing อย่างต่ำ สาขาละ 10 ล้านบาท เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ทั้งในส่วน Visual Merchandising และห้อง Fitting Room

นายจักร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2560บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายจากแบรนด์เอแตม อยู่ที่ 350-400 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมของกลุ่มจัดจำหน่ายสินค้าต่างประเทศในเครือไมเนอร์เมื่อปี 2559 อยู่ที่ประมาณ2,600 ล้านบาท อัตราเติบโต 6%จากปีที่ผ่านมา คาดปี 2560 แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยประเมินตลาดแฟชั่นเสื้อผ้าและชุดชั้นในสตรีจะมีอัตราเติบโตราว 24% ประมาณ 3,200 ล้านบาท และยืนยันเป้าหมายผลักดันยอดขายรวมในกลุ่มธุรกิจดังกล่าวแตะ 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2564 ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ประกอบด้วย การเป็นผู้นำตลาดไลฟ์สไตล์ การสร้างเซ็กเมนท์สินค้าใหม่ๆ ที่น่าสนใจในตลาด รวมถึงการควบรวมกิจการและการเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่เข้าพอร์ต จากปัจจุบันที่มีจำนวนไม่ต่ำกว่า 12 แบรนด์
กำลังโหลดความคิดเห็น