ผู้จัดการรายวัน 360 - “อินบิสโก้” เครือข่ายของมาโยรากรุ๊ปอินโดนีเซีย สยายปีกตลาดไทยครั้งใหญ่ แตกไลน์ลูกอมโกปิโก้เข้าสู่ตลาดกาแฟพร้อมดื่มชิงตลาด 1.2 หมื่นล้านบาท ผุดโรงงานผลิตในไทยแห่งแรก 1.4 พันล้านบาทเป็นฐานส่งออกทั่วอาเซียน หวังแชร์ 10% จากตลาดรวมในปีแรก พร้อมงบตลาด 250 ล้านบาท อัดหนัก
นางมัลลิกา อิทธิสกุลชัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินบิสโก้ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือของมาโยรากรุ๊ป (MAYORA GROUP) ของประเทศอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจในไทยด้วยการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มเครื่องดื่มกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่ม หรืออาร์ทีดีแบรนด์โกปิโก้ คอฟฟี่ หลังจากที่ทำตลาดสแน็กในไทยมานานกว่า 20 ปี โดยไทยเป็นประเทศที่ 3 ที่ทำตลาดกาแฟสำเร็รูปดังกล่าวต่อจาก อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ที่เริ่มเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากตลาดกาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มในไทยมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาทมีศักยภาพ ซึ่งปีที่แล้วเติบโต 2% และปีนี้คาดว่าจะเติบโต 5%
โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 1,400 ล้านบาทสร้างโรงงานผลิตกาแฟแห่งแรกของกลุ่มมาโยรา ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา นำเข้าวัตถุดิบเมล็ดกาแฟจากอินโดนีเซีย กำลังผลิต 250 ล้านขวดต่อปี เพื่อเป็นฐานการผลิตส่งออกทั่วอาเซียน รวมทั้งส่งไปที่อินโดนีเซียด้วยเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ได้สร้างโรงงานใหม่อีกแห่งที่อินโดนีเซียเสร็จแล้วไม่นานนี้เพื่อใช้ป้อนในตลาดอินโดนีเซียเท่านั้น ส่วนไทยยังเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกทั่วอาเซียน
บริษัทฯ ใช้งบการตลาดรวม 250 ล้านบาท เพื่อทำตลาดครบวงจรในการผลักดันกาแฟพร้อมดื่มสำเร็จรูปโกปิโก้คอฟฟี่เข้าสู่ตลาด ทั้งหนังโฆษณาทีวี วิทยุ สื่อเอาต์ดอร์ แจกตัวอย่าง 2 ล้านขวด เป็นต้น เจะกลุ่มเป้าหมายผู้ชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว และยังทำให้บริษัทฯ ขยายฐานมาสู่กลุ่มผู้ใหญ่ได้ด้วยจากการรุกกาแฟอาร์ทีดีครั้งนี้ เพราะจากเดิมสินค้าหลักจะเป็นสแน็กที่จับกลุ่มเด็กและวัยรุ่น โดยคาดหวังยอดขายในปีแรกให้มีแชร์ประมาณ 10% จากตลาดรวมมูลค่า 12,000 ล้านบาท หรือมีรายได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท และเป้าหมายระยะยาวที่ต้องการมีแชร์เป็น 35% เพื่อเป็นผู้นำตลาดในอีก 10 ปีจากนี้
ในช่วงแรกนี้มี 2 รสชาติ คือ รสเข้ม และ รสกลมกล่อม ขนาด 240 มิลลิลิตร แบบขวด ราคา 13 บาท ซึ่งราคาเท่ากับแบรนด์อื่นในท้องตลาดแต่โกปิโก้มีปริมาณมากกว่า 33% โดยใช้พรีเซ็นเตอร์ 3 คน คือ “เวียร์-ศกุลวัฒน์” “ตอง-กวินทร์” ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย และ “ขวัญ-อุษามณี” โดยแต่งตั้งบริษัท เดอเบล จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า ซึ่งมั่นใจว่าด้วยชื่อแบรนด์โกปิโก้ที่ผู้บริโภครู้จักดีอยู่แล้วในฐานะผู้นำตลาดลูกอมกาแฟ และความแตกต่างของรสชาติ บรรจุภัณฑ์จากคู่แข่งจะทำให้โกปิโก้คอฟฟี่เข้าสู่ตลาดได้ไม่ยาก
นางมัลลิกากล่าวต่อว่า กลุ่มมาโยรา อินโดนีเซีย เป็นกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของอินโดนีเซีย มีสินค้าในเครือมากมาย เช่นที่จำหน่ายในไทยคือแบรนด์ เบงเบง(เวเฟอร์), แจมโอแจม(บิสกิต), โชกี้โชกี้ (ครีมชอกโกแลต), โกปิโก้ (ลูกอม), มัลคิสต์ (แครกเกอร์), แดนิสา (คุกกี้) ขณะที่ยังมีสินค้าอีกมากที่ยังไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายในไทย เช่น เครื่องดื่ม ชาพร้อมดื่มแบรนด์ PUCHUK, น้ำผลไม้ และนำเปล่า และสแน็กอื่นอีกมาก อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีการขยายพอร์ตสินค้าใหม่ๆ เข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น
