ตลาดเบียร์ในประเทศไทยที่มีปริมาณการจำหน่ายรวมทั้งปีประมาณ 100 ล้านลิตร ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง จากผู้ประกอบการจำนวนมากหลากหลายแบรนด์ทั้งแบรนด์ของไทยเอง และเบียร์จากต่างประเทศ โดยมีเซกเมนต์สแตนดาร์ดและอีโคโนมี เป็นตลาดที่ใหญ่ อย่างไรก็ตาม เซกเมนต์พรีเมียมหรือระดับบนกลับเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตดีและมากกว่า 2 กลุ่มที่กล่าวข้างต้น ถึงแม้ว่าปัจจุบันเบียร์พรีเมียมจะมีสัดส่วนตลาดเพียงแค่ 5% ของตลาดเบียร์รวมในไทยก็ตาม
มร.เอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน CEO Beer Product Group เปิดเผยว่า จากการสำรวจของ AC Nielsen บริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลกเรื่องเทรนด์การบริโภคสินค้าพรีเมียมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า ผู้บริโภคมีแนวโน้มในการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าในหมวดหมู่อาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียมมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตกว่า 24% ย่อมหมายความว่าตลาดพรีเมียมเป็นตลาดที่น่าสนใจและเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างดี
ทั้งนี้ ผลการวิจัยยังระบุด้วยว่า แนวโน้มสินค้าระดับพรีเมียมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะพบว่าสินค้าที่เป็นระดับโกลบอลแบรนด์จะมีส่วนแบ่งการตลาด 18% และเติบโต 12%, สินค้าพรีเมียมจากภาคพื้นมีส่วนแบ่งการตลาด 17% และเติบโต 14% ส่วนสินค้าท้องถิ่นจะมีส่วนแบ่ง 12% และเติบโต 35% มากที่สุด
ขณะที่หากมองในแง่ของกลุ่มสินค้าระดับพรีเมียมแล้วก็จะพบว่าสินค้ากลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์หรือสินค้าส่วนบุคคลมีแชร์ 23% มีการเติบโต 22%, สินค้าที่ใช้ในครัวเรือนมีแชร์ 20% และมีการเติบโต 11%, สินค้าทางด้านอาหาร มีแชร์ 9% และมีการเติบโต 103% มากที่สุดเช่นกัน
ส่วนประเทศที่ตลาดสินค้าระดับพรีเมียมโดดเด่นและเติบโตมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ อินโดนีเซีย ประมาณ 42%, รองลงมาคือ ประเทศไทย 24%, ตามมาด้วย สิงคโปร์ 17%, ฟิลิปปินส์ 10%, มาเลเซีย 1% และสุดท้ายคือ เวียดนามที่ติดลบ 4%
มร.เอ็ดมอนด์กล่าวว่า แบรนด์และสินค้าทั้งหลายต่างจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตามในหลายมิติเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าพรีเมียมมากขึ้น ซึ่งปัจจัยความสำเร็จของสินค้าระดับพรีเมียมนี้มีองค์ประกอบดังนี้ 1. ผู้ผลิตต้องมีการผลิตสินค้านวัตกรรม แลดูทันสมัย 2. ต้องรู้และเข้าถึงแรงบันดาลใจของผู้บริโภค 3. การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ด้านราคาให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะเป็นสินค้าพรีเมียมก็ตาม
ล่าสุดเบียร์เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ได้นำเสนอโฉมใหม่เพื่อรุกเข้าสู่ตลาดเบียร์พรีเมียม เนื่องจากเล็งเห็นว่าตลาดเบียร์พรีเมียมนี้ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก โดยแผนการดำเนินงานจะเน้นการสื่อสารกับผู้บริโภค เน้นไปที่คุณภาพเบียร์พรีเมียมสไตล์เยอรมันแท้ โดยภาพลักษณ์ใหม่เห็นได้ชัดเจนจากบรรจุภัณฑ์ ฉลากผลิตภัณฑ์ ที่พัฒนาขึ้นให้ดูทันสมัย บรรจุภัณฑ์แบบขวดได้มีการพัฒนาให้สื่อถึงความมีระดับด้วยเทคโนโลยีการติดฉลากแบบ Pressure Sensitive Label ที่มีคุณภาพสูง และผลิตภัณฑ์กระป๋องแบบทรงสูง (sleek can) โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ฉลากผลิตภัณฑ์ และอื่นๆ จากศิลปะและปรัชญาสไตล์เบาเฮาส์ (Bauhaus) ของเยอรมัน ที่เน้นความคลาสสิก เรียบง่ายแต่สวยโดดเด่น ทรงคุณค่า ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา และมีคุณภาพตามแบบฉบับเยอรมัน
คำว่าเฟเดอร์บรอย (Federbräu) มาจากคำในภาษาเยอรมัน คำว่า Feder แปลว่า ขนนก (ตรงกับภาษาอังกฤษคำว่า Feather ) ส่วนคำวา Brau แปลว่า การหมักการกลั่น (ตรงกับภาษาอังกฤษ Brew) ดังนั้น คำว่า Federbräu จึงสื่อถึงความพิถีพิถันในการถ่ายทอดรสชาติที่พิเศษ credential ของเบียร์เฟเดอร์บรอย (Federbräu) คือเป็นเบียร์พรีเมียมที่ได้รับแรงบันดาลใจสไตล์เยอรมัน เปิดประสบการณ์การดื่มเบียร์ในรูปแบบใหม่ตามแบบฉบับเยอรมัน ที่ทันสมัย มีระดับ, รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยวัตถุดิบคุณภาพ
นั่นคือ เยอรมัน ซิงเกิลมอลต์ มอลต์จากแหล่งผลิตเพียงแหล่งเดียวที่นำเข้าจากประเทศเยอรมนี เจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย, สัญลักษณ์ขนนกสีแดงสื่อถึง รสชาตินุ่ม เบา, มีแนวคิด Simply German, Passion für Perfektion (Passion for Perfection) คือการนำ Passion ทุ่มเททำสิ่งที่ตนรักและเชื่อมั่น สร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่นอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด เช่นเดียวกับเฟเดอร์บรอย (Federbräu) ที่เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบคุณภาพ ใส่ใจในทุกขั้นตอนและรายละเอียด เพื่อให้เป็นเบียร์พรีเมียมที่สมบูรณ์แบบ
เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ยังได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ฉลากผลิตภัณฑ์และอื่นๆ จากศิลปะและปรัชญาสไตล์เบาเฮาส์ (Bauhaus) ของเยอรมัน ที่เน้นความคลาสสิก เรียบง่ายแต่สวยโดดเด่นทรงคุณค่า ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา และมีคุณภาพตามแบบฉบับเยอรมัน ถือเป็นโฉมใหม่ของเบียร์เฟเดอร์บรอย (Federbräu) เพื่อรุกสู่ตลาดเบียร์พรีเมียมได้อย่างเต็มภาคภูมิ
โดยกลุ่มเป้าหมายของเบียร์เฟเดอร์บรอย (Federbräu) นี้จับกลุ่มชายหนุ่มอายุ 25-35 ปี ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในเมือง เป็นคนที่ทันสมัย มีรสนิยมดีและชอบเป็นที่สนใจของผู้อื่น ซึ่งเฟเดอร์บรอย (Federbräu) เป็นเบียร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น สะท้อนตัวตนของผู้ดื่มได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น มุมเอียง 45 องศายังเป็นมุมที่ใช้ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ฉลากผลิตภัณฑ์และอื่นๆ ของเฟเดอร์บรอย (Federbräu) โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะและปรัชญาสไตล์เบาเฮาส์ (Bauhaus) ของเยอรมนี ที่เน้นความคลาสสิก เรียบง่ายแต่สวยโดดเด่น ทรงคุณค่า ไม่ขึ้นอยู่กับการเวลา และมีคุณภาพตามแบบฉบับเยอรมัน
เฟเดอร์บรอย (Federbräu) โฉมใหม่มีบรรจุภัณฑ์หลัก 3 ขนาด คือ ขวดใหญ่ 620 มิลลิลิตร, ขวดเล็ก 320 มิลลิลิตร และกระป๋อง Sleek can 320 มิลลิลิตร โดยวางจำหน่ายให้ผู้บริโภคได้ลองสัมผัสตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา