เนสกาแฟปั้น”โกลด์สูตรเฉพาะ”ขายไทย

ผู้จัดการรายวัน360 – เนสกาแฟ ปั้นเรือธงใหม่ เนสกาแฟโกลด์สูตรใหม่เฉพาะ บุกตลาดไทยที่เดียวในโลก รับไทยเป็นตลาดหลักในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทุ่มงบรวม 300 ล้านบาท ดันตลาดกาแฟปรุงสำเร็จพรีเมียม

นางออดรีย์ เลียว ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า ตลาดกาแฟในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของเนสท์เล่ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ และมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ทางเนสท์เล่จึงได้ทำการเปิดตัวเนสกาแฟโกลด์ใหม่ที่พัฒนาสูตรใมห่ขึ้นมาโดยเฉพาะและขายในไทยที่แรกและที่เดียว เพื่อเข้าสู่ตลาดพรีเมียมในไทยเป็นครั้งแรก หลังจากที่เนสกาแฟโกลด์ทำตลาดทั่วโลกมานานเกือบ 60 ปีแล้วแต่จะเป็นคนละสูตรที่พัฒนาและผลิตในไทยตัวใหม่นี้

นายแวลดดิสลาฟ อังดรีฟ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟและครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯใช้งบรวม 300 ล้านบาท แยกเป็น 100 ล้านบาท ในการลงทุนผลิตและอีก 200 ล้านบาทใช้ในการทำตลาด ทั้งประชาสัมพันธ์ โฆษณา กิจกรรมต่างๆ ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายในไทยก่อนหน้านี้จะเป็นเนสกาแฟโกลด์ดั้งเดิมที่มีผู้อื่นนำเข้ามาจำหน่าย โดยเนสกาแฟโกลด์มี 3 รสชาติคือ คาปูชิโน่, ลาเต้มัคคิอาโต้และ ไวท์เอสเพรสโซ่ มี 2 ขนาดคือ แพ็คบรรจุ 10 ซองราคา 99 บาท กับแพ็คบรรจุ 4 ซองราคา 40 บาท

สำหรับตลาดรวมกาแฟในไทยมีมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านบาท เติบดตจ2หลักแยกเป็นตลาดกาแฟปรุงสำเร็จประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยมีกาแฟปรุงสำเร็จพรีเมียมมูลค่า 418 ล้านบาท ซึ่งยังมีมูลค่าที่น้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดรวมและกับต่างประเทศ เช่น ในเยอรมัน มูลค่า 7,120 ล้านบาท ในอังกฤษมูลค่า 3,889 ล้านบาท ในฝรั่งเศสมูลค่า 2,595 ล้านบาท และในเกาหลีใต้มูลค่า 609 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่าตลาดในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยบริษัทฯมีเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอีกจากเดิมเป็นผู้นำแอยู่แล้วด้วยแชร์ 56% ในตลาดพรีเมียม 418 ล้านบาท

การเปิดตัวสินค้าใหม่เนสกาแฟโกลด์ครั้งนี้จะช่วยทำให้เนสท์เล่มีความแข็งแกร่งและมีส่วนแบ่งตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้นอีก เพราะนอกจากจะได้ฐานลูกค้าเก่าแล้ว ยังได้ขยายฐานลูกค้าใหม่อีกด้วย เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นหลัก การทำตลาดจะเน้นสื่อดิจิทัลมากขุ้นด้วยสัดส่วน 20% ของบตลาดรวม มีการแจกสินค้าตัวอย่างลองชิม 1 ล้านถ้วย มีหนังโฆษณา และได้ “ก้อง-สหรัถ สังคปรีชา” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์

ขณะที่เมื่อปีที่แล้วเนสกาแฟได้เปิดตัว เนสกาแฟเบลนด์แอนด์บลู พบว่าประสบคความสำเร็จอย่างมาก และทำรายได้สัดส่วนกว่า 50% จากพอร์ตโฟลิโอกาแฟทั้งหมดของบริษัทฯ และมั่นใจว่าจะไม่ซ้ำซ้อนตลาดกันกับเนสกาแฟโกลด์ตัวใหม่นี้