“กลุ่มเซ็นทรัล” ทุ่มงบลุยปี60มูลค่า 4.5 หมื่นล้านบาท พร้อมปูฐานเทคโนโลยี -โลจิสติกส์ สร้างศักยภาพลุย ตลาดออนไลน์เต็มที่ ล่าสุดกลุ่มดุสิตธานี ดึงซีพีเอ็น ร่วมผุดโครงการมิกซ์ยูสสีลม มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ในปี2560กลุ่มเซ็นทรัลจะงบลงทุนด้านการพัฒนาและวางระบบเกี่ยวกับด้านออนไลน์ เทคโนโลยี และเรื่องโลจิสติกส์ ไม่ต่ำกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท ส่วนปีหน้าคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อสร้างศักยภาพในการรองรับและรุกตลาดออนไลน์และการขยายตัวต่างประเทศโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเออีซีเต็มที่จากนี้ ซึ่งสัดส่วนยอดขายที่มาจากออนไลน์เพียงแค่ 1% เท่านั้น แต่ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 15% อีก 5 ปีจากนี้
“เรามีธุรกิจออฟไลน์ขยายสาขามานานกว่า 70 ปีแล้ว ขณะที่ด้านออนไลน์ก็เพิ่งเริ่มทำกันมา ธุรกิจออฟไลน์กับออนไลน์จริงๆแล้ว มันเชื่อมต่อกันอยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรให้มันเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้ ทุกวันนี้คนทำออฟไลน์ก็ทำออนไลน์ ส่วนคนทำออนไลน์ก็ขยายมาทำด้านออฟไลน์ เราต้องปรับใหม่หมด ทั้งการจัดการ การบริหาร การเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรมและความคิดของคน ซึ่งถือว่ายากที่สุด ในอดีตเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านค้าปลีก แต่ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว เป็นของใหม่หมด ทุกอย่างต้องเปลี่ยนเพราะเทคโนโลยี ผู้บริโภคฉลาดและรู้มากขึ้นด้วย”
สำหรับแผนธุรกิจปี2560 นายทศกล่าวว่า จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 45,534 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของซีพีเอ็นเป็นหลักในการสร้างอาคารและอสังหาริมทรัพย์ และวางเป้าหามายรายได้รวม 382,200 ล้านบาท เติบโต 14.9% จากปี2559 การขยายตัวทางธุรกิจปี 60 คือ 1. เปิดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าใหม่ในไทย 6 แห่ง คือ เป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา 2 แห่ง ที่นครราชสีมา เปิดวันที่ 28 ก.ค.60 และที่ มหาชัย เปิดไตรมาส 4, เปิดโรบินสัน 3 แห่ง ที่สมุทรสาคร , เพชรบุรี และกำแพงเพชร, 2. เปิดท็อปส์ พลาซา 2 แห่ง คือที่พิจิตรและพะเยา และ 3.เปิดห้างหรูแห่งใหม่ที่กรุงโรมอิตาลี กันยายน 60 และเป็นแฟลกชิพสโตร์ของลา รีนาเชนเต,
4.เปิดโรงแรมใหม่ทั้งในและนอกประเทศ 4 แห่งคือ ปาร์ค ไฮแอท, เซ็นทารา แกรนด์ เวสต์เบย์ เมืองโดฮา กาตาร์ ไตรมาส 2 ปี 60,โรงแรมเซ็นทารา มัสกัต ประเทศโอมาน ไตรมาสที่ 2 และโรงแรมโคซี่ เฉวง จังหวัดสมุย เปิดไตรมาสที่ 3 ปี 60 5.โครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ที่เชียงราย,เชียงใหม่ และโคราช 6.ตั้งเป้าจำนวนซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อมากกว่า 350 ร้าน 7.ตั้งเป้าจำนวนร้านค้าเฉพาะทาง มากกว่า 100 ร้าน 8.ตั้งเป้าร้านอาหาร มากกว่า 70 ร้าน รวมทั้งสิ้น 520 ร้าน 9. การปรับปรุงศูนย์การค้า 4 แห่ง คือ เซ็นทรัลเวิลด์-เซ็นทรัลพลาซา-พระราม 3 -ลารีนาเชนเต เมืองตูริน และเปิดโอเพ่น เฮาส์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ส่วนปี 2559 ของกลุ่มเซ็นทรัลมียอดขาย 332,700 ล้านบาท เติบโต 17.2% (เทียบกับปี 2558 มียอดขาย 283,450 ล้านบาท) และใช้งบลงทุน 39,000 ล้านบาท ส่วนพื้นที่สถานฑูตอังกฤษย่านชิดลมเดิมนั้นที่มีการเปิดประมูลส่วนต่อเพิ่มอีก บริษัทยังไม่ทราบรายละเอียดความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไร
นายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการบริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทลงนามในสัญญากับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อต่อสัญญาเช่าที่ดินบริเวณหัวมุมถนนสีลมและพระราม 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพต่อไปอีก 30 ปี และได้รับสิทธิในการเช่าที่ดินต่อเนื่องอีก 30 ปี โดยมีแผนพัฒนาและยกระดับโรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพ ในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโรงแรมที่เป็นที่นิยมระดับโลก พร้อมจับมือกับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบผสมขนาดใหญ่ (Mixed-use) ซึ่งจะประกอบไปด้วย โรงแรม อาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดุสิตธานีได้รับสิทธิเช่าที่ดินเพิ่มขึ้นอีกรวมเป็นที่ดินขนาดเกือบ 24 ไร่ และได้มีแผนยกระดับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมมูลค่าประมาณ 36,700 ล้านบาท ที่เราร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนา โดยโครงการใหม่นี้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เหมือนที่โรงแรมดุสิตธานีได้สร้างประวัติศาสตร์เอาไว้เมื่อ 47 ปีที่ผ่านมา
“เรามุ่งให้โครงการใหม่นี้ เป็นโครงการที่สามารถเอื้อประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้เป็นจุดศูนย์กลางของเมืองอย่างแท้จริง โดยเป็นทั้งจุดศูนย์กลางทางธุรกิจ จุดศูนย์กลางค้าปลีก และจุดศูนย์กลางที่เชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนหลักของกรุงเทพฯ ทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT ตลอดจนเป็นย่านที่ตั้งของโครงการที่พักอาศัยระดับบนมากมาย อีกทั้งยังตั้งอยู่ติดกับสวนลุมพินี พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ และเป็นสวนสาธารณะที่เป็นที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย”
ทั้งนี้ ดุสิตธานีอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาแผนพัฒนาโครงการ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดที่สำคัญของโครงการ และพร้อมประกาศให้ทราบภายในช่วงกลางปีนี้