xs
xsm
sm
md
lg

“วอริกซ์” เปิดตัวชุดทีมชาติบอล 1,990 บาท รุก ตปท.คว้าไลเซนส์ผลิตชุดแข่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด
ผู้จัดการรายวัน 360 - “วอริกซ์” เดินหน้าลุยตลาดเสื้อทีมชาติเต็มกำลัง ล่าสุดลิขสิทธิ์ผลิตชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการปี 60-63 ปีแรกกวาดรายได้ร่วม 400 ล้านบาท คาดคนไทยเชียร์ชาติไทยร่วม 1 ล้านตัว ล่าสุดยกคุณภาพตีตลาดญี่ปุ่นสำเร็จ กลางปีนี้ได้ลิขสิทธิ์ทีมชาติฟุตซอลญี่ปุ่น มั่นใจดันรายได้ทั้งปีทะลุ 600 ล้านบาท โต 3 เท่าตัว

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2560 นี้บริษัทพร้อมรุกตลาดเสื้อกีฬาทีมชาติอย่างเต็มที่ โดยในปีนี้ได้รับลิขสิทธิ์ผลิตชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการประจำปี 2560-2563 รวม 4 ปี ล่าสุดพร้อมเปิดตัวชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยชุดแรกจากวอริกซ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “นักรบคนที่ 12” มี 2 แบบให้เลือก คือ ชุดแข่งขันสำหรับแฟนบอล ราคา 890 บาท เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 1 มี.ค.นี้ และชุดแข่งขันสำหรับนักเตะ ราคา 1,990 บาท มี 2 สี คือ สีดำ-ไชยานุภาพ เป็นชุดเหย้า และสีขาว-ปราบไตรจักร เป็นชุดเยือน สั่งซื้อได้ตั้งแต่ 1 มี.ค.นี้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีเสื้อเชียร์ราคา 390 บาท ที่จำหน่ายมาตั้งแต่ ม.คที่ผ่านมาด้วย ตั้งเป้ายอดขายทั้งสามแบบไว้ที่ 1 ล้านตัวภายในสิ้นปีนี้ หรือน่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท และต่อปีจะมียอดขายเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักขึ้นไป ซึ่งขณะนี้มียอดจองเข้ามาแล้วกว่า 5 แสนตัวในทุกแบบรวมกัน สำหรับชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยชุดหลัก จะใช้ครั้งแรกในการแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียที่ไทยจะเปิดบ้านรับการมาของซาอุดีอาระเบียในวันที่ 23 มี.ค.นี้

ทั้งนี้ บริษัทพร้อมรุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง หลังจากทดลองตลาดมาตั้งแต่ปีก่อน ส่งผลให้ปีนี้จะมีเข้าไปทำตลาดใน 2-3 ประเทศ คือ ลาวโตโยต้าคัพ และฟุตซอลมาเลเซีย ในลักษณะตั้งตัวแทนจำหน่าย และล่าสุดยังได้เซ็นสัญญาได้ลิขสิทธิ์ผลิตชุดแข่งขันฟุตซอลทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป มั่นใจว่ายอดขายกลุ่มต่างประเทศจะเริ่มดีขึ้นถึงแม้จะยังไม่ถึง 10% ของยอดขายรวมก็ตาม

นายวิศัลย์กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทพร้อมใช้งบลงทุนกว่า 40 ล้านบาทในการทำตลาดและลงทุนด้านช่องทางออนไลน์ 50% เท่าๆ กัน ซึ่งมองเป็นช่องทางขายสำคัญในอนาคต จากปัจจุบันมีช่องทางขายหลักอยู่ 3 ทาง คือ เซเว่นอีเลฟเว่น 30-30% ออนไลน์และโมเดิร์นเทรด 30-33% ช่องทางเดิมอีก 30-33% เท่าๆ กัน หรือรวมแล้วมีช่องทางจำหน่ายไม่ต่ำกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ นอกจากนี้ ในส่วนของชอปจากเดิมมีอยู่ 1 แห่งที่สาทร ปีนี้เตรียมเปิดเมกะสโตร์อย่างน้อย 2 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งในกรุงเทพฯ นั้นคาดว่าจะใช้พื้นที่ 100 ตารางเมตร งบลงทุนน่าจะอยู่ที่ 54 ล้านบาท สำหรับจำหน่ายสินค้าทีมชาติ ในชื่อ ชอปช้างศึก

จากปัจจุบันวอริกซ์ผลิตเสื้อกีฬาให้สโมสรฟุตบอลดัง 4 ทีม คือ ทีมสุพรรณบุรี, กรุงเทพคริสเตียน, อุดรธานี และชัยนาท บวกกับปีนี้ได้ลิขสิทธิ์ผลิตชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยเข้ามา ส่งผลให้ปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้น 3 เท่า มาจากเสื้อคอลเลกชัน 180 ล้านบาท เสื้อสโมสรทีมฟุตบอล 20 ล้านบาท และเสื้อทีมชาติ 400 ล้านบาท



กำลังโหลดความคิดเห็น