BEAUTY โชว์ฟอร์มสวยเลอค่า ผลงานปี 59 รายได้-กำไรทุบสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ กวาดรายได้ 2,558.84 ล้านบาท โตกว่า 42.79% กำไรสุทธิ 656.01 ล้านบาท โต 63.00% พร้อมจ่ายปันผลงาม 0.218 บาท/หุ้น คิดเป็น 99.71% ของกำไรสุทธิ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ทะลุ 3,100 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% ทุ่มงบลงทุน 160 ล้านบาทขยายสาขาและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างยอดขาย รองรับการเติบโต
นายแพทย์ สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด(มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2559 ว่า บริษัทมีผลประกอบการที่โดดเด่นและเป็นการทำสถิติผลประกอบการเติบโตสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,558.84 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,792.03 ล้านบาท จำนวน 766.81 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 42.79 % และมีกำไรสุทธิ 656.01 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 402.49 ล้านบาท จำนวน 253.52 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 63.00%
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2559 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 701.81 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 574.01 ล้านบาท จำนวน 127.80 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.30% และมีกำไรสุทธิ 177.81 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 130.97 ล้านบาท จำนวน 46.84 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.80%
สำหรับผลประกอบการของ BEAUTY มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ต่างๆ ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศและลูกค้าชาวต่างชาติ ส่งผลให้ยอดจำหน่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม โดยปี 2559 มีอัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sale Growth) ถึง 22.59% อีกทั้งมีการขยายสาขาครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดย ณ สิ้นปี 2559 มีสาขาในประเทศทั้งหมด 332 สาขา และสาขาในต่างประเทศที่เป็น Indepent shop จำนวน 40 สาขา และ Shop in shop จำนวน 138 สาขา อีกทั้งมีการขยายช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น Modern Trade ร้านสะดวกซื้อ และออนไลน์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นพ.สุวินกล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 99.71% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย จากนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% หรือคิดเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.138 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 414.13 ล้านบาท จากที่ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.08 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น 89.57% ของกำไรสุทธิ โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสด คิดเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 240 ล้านบาท ส่งผลทำให้ในปี 2559 บริษัทจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 0.218 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 654.24 ล้านบาท หรือ 99.71% ของกำไรสุทธิ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 3พฤษภาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 (เข้าขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 25 เมษายน 2560 )
ส่วนแนวโน้มการเติบโตปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 3,100 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% รักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20% ขณะที่งบลงทุนอยู่ที่ 160 ล้านบาท แบ่งเป็นลงทุนเปิดสาขาใหม่จำนวน 110 ล้านบาท และนำไปใช้ในโครงสร้างพื้นฐานจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อนำไปพัฒนาระบบซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างยอดขาย และปรับปรุงอาคารสำนักงานแห่งเดิมและแห่งใหม่ให้เป็น Happy Work Place เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต