xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ส่งออกผวาบาทแข็งค่า เกาะติดใกล้ชิดหวั่นฉุดเติบโตการส่งออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้ส่งออกเกาะติดค่าเงินบาทหลังเริ่มผันผวนไปในทิศทางแข็งค่ามากขึ้น ลุ้นเฟดขึ้นดอกเบี้ย มี.ค.ช่วยฉุดบาทอ่อนลง หวัง ธปท.จะดูแลไม่ให้ผันผวนและแข็งค่าใกล้เคียงกับคู่แข่งทางการค้าเพื่อผลักดันการเติบโตของการส่งออกไทยที่พาณิชย์ตั้งเป้าปีนี้โต 5%

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและรองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาคส่งออกกำลังติดตามภาวะค่าเงินบาทใกล้ชิดเนื่องจากเริ่มมีทิศทางของการแข็งค่าขึ้นมากในช่วงเดือน ก.พ.ต่อเนื่อง โดยเคลื่อนไหวระดับ 34.80-34.99 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เองก็เฝ้าติดตามเพื่อที่จะไม่ให้เกิดความผันผวน อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือน มี.ค.นี้อีกหรือไม่

“คงจะต้องติดตามปัจจัยจากเฟดว่าจะมีการทยอยขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ หากขึ้นก็จะทำให้บาทกลับมาอ่อนค่าได้ ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าค่าเงินบาทค่อนข้างมีความผันผวน ขณะเดียวกันนโยบายต่างๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะสามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใด ภาพรวมเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามใกล้ชิดเพราะมีผลต่อการส่งออกโดยรวม”

ทั้งนี้ ยอมรับว่าสิ่งที่ผู้ส่งออกกังวลขณะนี้คือค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเพราะจะมีผลต่อขีดความสามารถทางการแข่งขันในการส่งออกของสินค้าไทย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือ ธปท.ดูแลไม่ให้ผันผวนและให้การแข็งค่านั้นสอดรับกับคู่แข่งในการส่งออกของไทยก็จะทำให้ผู้ส่งออกไม่ต้องลำบากมาก เพราะหากแข็งค่ากว่าคู่แข่งอำนาจต่อรองราคาสินค้าก็จะลำบาก อย่างไรก็ตาม กรณีที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันการส่งออกปี 2560 ให้เติบโตระดับ 5% จากปีที่แล้วนั้นเป็นเรื่องของเป้าหมายที่ตั้งไว้เพื่อท้าทายการทำงานร่วมกันทั้งรัฐและเอกชน

เป้าหมายการส่งออกดังกล่าวยอมรับว่าหากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าอาจจะทำให้มีข้อจำกัดต่อการเติบโตการส่งออกได้แต่ก็หวังว่าจะเป็นระยะสั้นๆ เนื่องจากภาพรวมการส่งออกปี 2560 คาดว่าน่าจะดีกว่าปีที่แล้วแต่จะโตถึง 5% หรือไม่คงจะต้องเร่งผลักดันกันถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่ไทยจำเป็นจะต้องเร่งดำเนินการคือการผลักดันสินค้าส่งออกตามแนวชายแดนซึ่งปีที่ผ่านมายอมรับว่าการเติบโตมีเพียง 2.8% เท่านั้นขณะที่ตั้งเป้าไว้จะโตถึง 7% เพราะภาวะเศรษฐกิจโลกภาพรวมชะลอตัวโดยเฉพาะจากจีน แต่ในปีนี้คาดหวังว่าการค้าชายแดนของไทยน่าจะกลับมาขยายตัวได้ดีอีกปีหนึ่งเนื่องจากเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น