xs
xsm
sm
md
lg

ศาลสั่งคุ้มครองฉุกเฉินรถเมล์เอ็นจีวี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นายชนิด ศุทธยาลัย ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ผู้นำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี ได้เป็นโจทก์ฟ้องกรมศุลกากร กับพวก ประกอบด้วย นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง นายธีระชาติ อินทริง นายวิฑูรย์ อาจารียวุฒิ ประธานฯ และกรรมการตรวจปล่อยรถยนต์ใหม่ที่นำเข้า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ว่าร่วมกันจงใจกระทำละเมิดหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง กล่าวหาว่าโจทก์แสดงถิ่นกำเนิดอันเป็นเท็จโดยยึดหน่วงรถยนต์โดยสารเอ็นจีวีที่นำเข้าจากประเทศมาเลเซียจำนวน 99 คัน ซึ่งความจริงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดออกโดยหน่วยงานราชการประเทศมาเลเซีย โดยไม่มีพยานหลักฐานใดๆ อันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ และประมวลระเบียบปฏิบัติศุลกากร พ.ศ. ๒๕๕๖ ข้อ ๔ ๐๓ ๐๖ ๐๕ เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากร สำหรับของที่มีถิ่นกำเนิดจากอาเซียน (ATIGA) ทั้งๆ ที่ จำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๖ ทราบดีว่าเอกสารดังกล่าวมิได้เป็นเท็จ อันเป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งบุคคลเช่นจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๖ พึงจะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์เช่นนั้น กล่าวคือร่วมกันจงใจกระทำละเมิดอย่างร้ายแรงกล่าวหาโจทก์โดยไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ซึ่งเป็นเพียงข้อสงสัยของจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๖ ว่าหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (FORM D) อันเป็นเท็จเท่านั้น ทั้งสินค้าที่โจทก์นำเข้าก็ไม่อยู่ในข้อกำหนดของหลักเกณฑ์ในความผิดฐานสำแดงเท็จ ตามพระราชบัญญัติห้ามนำของที่มีการแสดงกำเนิดเป็นเท็จเข้ามา พ.ศ. ๒๔๘๑ มาตรา ๕ เนื่องจากพระราชบัญญัติดังกล่าวห้ามนำของที่มีการแสดงกำเนิดเป็นเท็จเข้ามา เฉพาะที่เกี่ยวกับของหัตถกรรมเท่านั้น ไม่ใช่สินค้ารถยนต์โดยสารที่โจทก์นำเข้าแต่อย่างใด

นอกจากฝ่าฝืนต่อกฎหมายและระเบียบดังกล่าวแล้ว ยังทำให้โจทก์ส่งมอบรถยนต์โดยสารดังกล่าวให้แก่ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ไม่ทันตามกำหนดเวลาตามสัญญาอีกด้วย โจทก์ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการนำเข้าโดยถูกต้อง จำเลยทั้งหกจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงรถยนต์โดยสารปรับอากาศเอ็นจีวีดังกล่าว และก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ได้มีหนังสือโต้แย้งการกระทำของจำเลยที่ ๒ ถึงที่ ๖ แล้ว แต่จำเลยทั้งหกไม่ยอมส่งมอบรถยนต์โดยสารเอ็นจีวีให้แก่โจทก์ และพยายามจงใจให้โจทก์ชำระค่าปรับในอัตราสองเท่านอกเหนือจากค่าภาษีอัตราปกติอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติศุลกากร พ.ศ. ๒๕๕๖ ข้อ ๔ ๐๓ ๐๖ ๐๕ เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากรสำหรับของที่มีถิ่นกำเนิดจากอาเซียน (ATIGA) และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ และหน่วงเหนี่ยวถ่วงเวลาเพื่อมิให้โจทก์ได้รับรถยนต์โดยสารปรับอากาศเอ็นจีวี

และในวันเดียวกันศาลจังหวัดพัทยาได้ไต่สวนฉุกเฉินและมีคำสั่งว่าคำฟ้องโจทก์มีเหตุผลเพียงพอ และพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ยึดหน่วงรถโดยสารไว้ ทั้งที่ยังไม่มีหลักฐานอย่างเพียงพอว่าหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด (Form D) เป็นเท็จหรือไม่หรือมีเหตุอื่นหรือไม่ และให้โจทก์วางค่าปรับนอกเหนือจากเงินประกันค่าภาษีอัตราร้อยละ 40 โดยไม่เป็นไปตามประมวลระเบียบปฏิบัติของกรมศุลกากร พ.ศ. 2556 เรื่องการยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากร สำหรับของมีถิ่นกำเนิดจากอาเซียนทำให้โจทก์เสียหาย

จึงมีเหตุที่จะคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา จึงมีคำสั่งให้จำเลยทั้งหกร่วมกันปล่อยรถยนต์โดยสาร ตามหนังสือรับรองถิ่นกำเนิด และโจทก์ต้องวางเงินประกันภาษีนำเข้าอัตราร้อยละ 40 ของมูลค่ารถยนต์แต่ละคันและไม่ต้องชำระค่าปรับตามประมวลระเบียบปฏิบัติของกรมศุลกากร พ.ศ. 2556 และให้จำเลยทั้งหกร่วมกันออกหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถยนต์แต่ละคันด้วย

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผอ.ขสมก. กล่าวว่า ได้รับทราบแล้วว่าศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินให้บริษัทผู้นำเข้าสามารถนำรถเอ็นจีวีออกมา โดยให้วางเฉพาะเงินประกันภาษี 40 เปอร์เซ็นต์ไม่ต้องวางประกันค่าปรับ 2 เท่า ตรงนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งตนจะนำไปหารือกับคณะกรรมการตรวจรับและบอร์ดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่าคนกรุงเทพฯ อาจได้ใช้รถใหม่ในเร็ววันนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น