ส.อ.ท.เผยยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ ม.ค. 60 เพิ่มขึ้น 3.12% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่เทียบกับ ธ.ค.ลดลงถึง 34.08% คาดรอซื้องานมอเตอร์โชว์ช่วง มี.ค.-เม.ย. ขณะที่ส่งออกวูบสุดในรอบ 19 เดือนจากการส่งกระบะที่ลดหนัก ลุ้นโครงสร้างภาษีฯ รถอีวีเข้า ครม.สัปดาห์หน้า
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือน ม.ค. 2560 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 3.12% อยู่ที่ 152,261 คัน และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 12.13% ที่ผลิตได้ 135,792 คัน เพราะหลายบริษัทมีการผลิตรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ โดยพบว่าเป็นการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ในประเทศ ม.ค.อยู่ที่ 57,254 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.5%
“รถยนต์ขายในประเทศเพิ่มขึ้นจากการที่มีรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตาด รวมทั้งรถกระบะและรถบรรทุกที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัว แต่ลดลงจาก ธ.ค. 59 ประมาณ 34.08% ซึ่งการจำหน่ายในประเทศคงจะต้องติดตามจากงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 38 ที่จะมีขึ้นช่วง 29 มี.ค.-9 เม.ย. 60 ที่เป็นไปได้ว่าคนจะรอซื้อในงานดังกล่าว จึงขอดูอีก 2-3 เดือนว่าจะปรับเป้าหมายหรือไม่อย่างไร” นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออก ม.ค.ผลิตได้ 96,939 คัน คิดเป็น 63.67% ของยอดผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.65% สอดล้องกับยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปที่ลดลง 14.53% ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน อยู่ที่ 80,097 คัน เนื่องจากการส่งออกรถกระบะที่ลดลงในเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ คิดเป็นมูลค่าการส่งออกที่ลดลง 18.1% อยู่ที่ 41,424.68 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลดลงในตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา หลังจากมีการเข้มงวดในเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และราคาน้ำมันที่ลดต่ำซึ่งมีความกังวล โดยคงต้องติดตามดูว่าผู้ส่งออกอื่นๆ ลดด้วยหรือไม่
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า คาดว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าจะมีการพิจารณาโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ซึ่งที่ผ่านมาทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมสรรพสามิตได้หารือกับเอกชนต่อเนื่อง ซึ่งหลักการภาษีฯ อีวีคงจะลดสูงสุดมากกว่ารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและไฮบริด และมีเงื่อนไขที่ต้องการมุ่งเสริมให้เกิดการผลิตแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า ระบบคอนโทรล ฯลฯ ภายในประเทศ และเบื้องต้นคงจะมีการนำร่องในส่วนของรถเมล์ไฟฟ้าก่อน