ผู้จัดการรายวัน 360 - อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ กางแผนแนวบุกอาเซียนเต็มสูบ ชี้ Q1 ซีแอลเอ็มวีบูม ส่งงานคอนเสิร์ตอีดีเอ็ม และร็อก งานเทรดโชว์ แสดงสินค้าธุรกิจดาวรุ่ง และงานแคมเปญการตลาดเจาะพม่า
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (CLMV) มีอัตราเติบโตต่อเนื่องช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเทศพม่า ประกอบกับนโยบายทางรัฐบาลไทย และพม่าที่ส่งเสริมความร่วมมือกันในด้านต่างๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา และการลงทุน ทั้งในด้านบุคลากร และเศรษฐกิจของประเทศนั้น
ปีนี้บริษัทฯ พร้อมบุกอาเซียนเน้นกลยุทธ์สร้างสรรค์งานแบบ Business to Consumer หรือ (B2C) มากขึ้น ด้วยโมเดลอีเวนต์ ส่งซีรีส์บันเทิงไลฟ์สไตล์ สร้างกิจกรรมให้กับลูกค้า เช่น คอนเสิร์ต เทศกาลงานดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่ หรืออีดีเอ็ม (EDM) โดยมีดีเจชั้นนำจากต่างประเทศ และดีเจชั้นนำจากพม่าที่จะมาสร้างความมัน และงานคอนเสิร์ตเพลงฮาร์ดร็อก โดยศิลปินเพลงร็อกชื่อดังของพม่าในเดือนกุมภาพันธ์นี้
สำหรับรูปแบบของงานเทรดโชว์ที่อินเด็กซ์ฯ มีเทรดแฟร์อยู่ 3 งานต่อปี จัดต่อเนื่องมา 3 ปี คือ งานเมียนมาร์ บิวท์ แอนด์ เดคคอร์ งานเมียนมาร์ ฟูดเบฟ และงานเมียนมาร์ รีเทล แอนด์ เอ็กซ์โป และงานอื่นๆ รูปแบบแคมเปญเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เช่นการเปิดตัวสินค้าแบรนด์โลคัล และแบรนด์โกลบัล ทำกิจกรรมการตลาด และทำโปรโมชัน เทศกาลต่างๆ และในส่วนของภาครัฐบาล ที่เน้นสร้างความเชื่อมั่นด้านความมั่นคง และการพัฒนาประเทศ
“โอกาสการเติบโตของธุรกิจในประเทศพม่ายังมีอีกหลายช่องทางที่สามารถพัฒนาและต่อยอดได้ ความร่วมมือระหว่างไทยและพม่าในการพัฒนาด้านต่างๆ เป็นปัจจัยบวกทำให้เศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงเรียกความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการ และนักลงทุนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี"
อินเด็กซ์พัฒนางานที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของอีเวนต์ด้วย 5 ยุทธศาสตร์ คือ 1. งานด้านอีเวนต์มาร์เกตติ้ง 2. งานด้านการจัดเฟสทีฟ อีเวนต์ 3. งานด้านการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคผ่านงานวิจัย 4. การสร้างช่องทางในการสื่อสารแบบผสมผสาน และ 5. การจัดงานแฟร์ และเอ็กซิบิชันทุกรูปแบบ และมั่นใจผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2560 ในกลุ่มธุรกิจอาเซียน วิงซ์ จะเติบโตเท่าตัว
นอกจากนี้ได้ขยายธุรกิจในรูปแบบอื่นๆ อาทิ การพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างมูลค่าในรูปแบบของสถานที่ท่องเที่ยว และการสร้างงานใหม่ๆ ที่เป็นโปรเจกต์ของอินเด็กซ์ฯ เอง เพื่อตอบสนองความต้องการของ
แผนการรุกอาเซียนครั้งนี้ ต้องการบริหารความเสี่ยงจากสถานการณ์อีเวนต์ในประเทศที่ต้องเลื่อนออกไป ส่งผลให้หลายงานถูกดึงไปจัดในอาเซียนแทน รวมถึงให้ความสำคัญต่อตลาดต่างประเทศมากขึ้น