xs
xsm
sm
md
lg

ก.อุตฯถก16ก.พ.เดินหน้าหาแผนลอยตัวราคาน้ำตาลสิ้นปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กระทรวงอุตสาหกรรมลั่นแผนปรับโครงสร้างอุตฯอ้อยและน้ำตาลยังเดินหน้าปกติโดยเฉพาะการปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลที่จะต้องเร่งยุติเพื่อเดินหน้าฤดูหีบ60/61 เตรียมระดมหารือทั้งส่วนวันที่ 16 ก.พ.

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างอ้อยและน้ำตาลทรายขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.)ศึกษาแนวทางดำเนินงานโดยเฉพาะการนำไปสู่การปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลทรายตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่กำหนดไว้ในช่วงฤดูหีบอ้อยปี 2560/61 หรือช่วงสิ้นปีนี้ซึ่งระหว่างนี้จะต้องหาข้อสรุปให้ชัดเจนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า วันที่ 16 ก.พ.นี้จะมีการหารือร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลเพื่อตกผลึกเกี่ยวกับแนวทางการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายในประเทศซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอแนวทางหลักๆ ไว้ 2 แนวทางคือการกำหนดเพดานขั้นสูงและขั้นต่ำ และแนวทางที่ 2. ลอยตัวให้เป็นไปตามกลไกตลาดโลก

อย่างไรก็ตามแนวทางดังกล่าวจำเป็นจะต้องศึกษาทางด้านกฏหมายว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ซึ่งล่าสุดได้มีการมอบฝ่ายทีมกฏหมายศึกษาว่าการเปิดเสรีนั้นจะดำเนินการภายใต้กรอบใดบ้างที่ไม่ขัดหลักการขององค์การการค้าโลก(WTO) โดยเฉพาะกรณีหากมีเพดานต่ำสุด สูงสุดจะทำได้หรือไม่ และกลไกตลาดจะอิงแบบใดที่จะต้องหาแนวทางไม่กระทบต่อผู้บริโภคและชาวไร่อ้อยด้วย

" เราจะต้องเร่งสรุปแนวทางการปรับโครงสร้างให้ชัดเจนและต่อเนื่องจากให้กับบราซิลภายในก.พ.นี้ด้วยเพราะก่อนหน้าบราซิลได้กล่าวหาไทยต่อWTO ว่าอุดหนุนส่งออกน้ำตาลทราย จนเป็นสาเหตุให้ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกตกต่ำ กระทบต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของบราซิลทำให้มีการเจรจาซึ่งบราซิลต้องการให้ไทยมีการปรับโครงสร้างฯ ซึ่งจะรวมถึงการยกเลิกโควต้าน้ำตาลด้วยว่าที่สุดเมื่อยกเลิกเราจะกำหนดวิธีใดที่จะไม่กระทบต่อการบริโภคในประเทศให้ขาดแคลน"แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับแนวโน้มการหีบอ้อยฤดูผลิตปี 59/60 ที่เริ่มตั้งแต่ 6 ธ.ค. 59 ที่ผ่านมายอมรับว่าปริมาณอ้อยเข้าหีบภาพรวมมีแนวโน้มว่าจะต่ำกว่าการคาดการณ์ไว้ว่าจะมีอ้อยเข้าหีบประมาณ 91.05 ล้านตันเล็กน้อย ขณะที่แนวโน้มปริมาณอ้อยในฤดูผลิต 60/61 คาดว่าจะสูงขึ้นมากจากปริมาณพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากผู้ปลูกมันสำปะหลังหันมาปลูกอ้อยจำนวนมากหลังราคามันฯตกต่ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น