xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้น ครม.อนุมัติผ่อนปรนวีซ่าวันนี้ “อีลิทการ์ด” รุกตลาดใหม่สู่พันล้าน 3 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอให้มีการพิจารณาขยายระยะเวลามาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (VISA) ณ สถานทูต หรือสถานกงสุลไทย และปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VISA on Arrival : VoA) เป็นการชั่วคราวสำหรับ 21 ประเทศ เพิ่มเติมจาก 3 เดือนเป็น 6 เดือน ซึ่งคงต้องรอผลการพิจารณาอีกครั้งว่า ครม.จะอนุมัติให้เริ่มดำเนินการได้เมื่อใด ซึ่งหากเป็นไปตามที่กระทรวงฯ เสนอคือภายในสิ้นเดือน มี.ค. 60 จะทำให้เป็นเครื่องมือดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก

นางกอบกาญจน์กล่าวด้วยว่า สำหรับการเปิดตัวบัตรสมาชิกพิเศษ “ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด” รูปแบบใหม่ของ บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิเลจ คาร์ด จำกัด ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถือหุ้น 100% วานนี้ (6 ก.พ. 60) ถือเป็นแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติและดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับไฮ-เอนด์ ตลอดจนนักธุรกิจ นักลงทุน และกลุ่มชาวต่างชาติที่ต้องการพำนักในประเทศไทยในระยะยาวที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาการท่องเที่ยวปี 2560 ของกระทรวงฯ ที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) การเดินทางท่องเที่ยวในอาเซียน 5 ด้าน คือ การท่องเที่ยวเชิงกีฬา, การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, การจัดงานแต่งงาน, การท่องเที่ยวทางน้ำ และศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชื่อมโยง ASEAN Connect

“โครงการดังกล่าวไทยจะมีรายได้จากการจำหน่ายบัตรสมาชิก และระยะยาวคือมูลค่าการลงทุน หรือการสร้างงานจากชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาประเทศไทยด้วยวัตถุประสงค์ 3 ด้าน คือ การท่องเที่ยว การทำงาน และการลงทุน ทั้งยังถือเป็นการตอบโจทย์นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มครอบครัวที่มีพฤติกรรมการเดินทางบ่อยครั้งกว่ากรุ๊ปทัวร์ทั่วไป” นางกอบกาญจน์กล่าว

ด้านนายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พรีวิเลจ คาร์ด จำกัด ผู้ดำเนินงานโครงการบัตรสมาชิกพิเศษ “ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด” กล่าวว่า ในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายบัตรสมาชิก 400 ล้านบาท เติบโตขึ้น 10% จึงกำหนดกลยุทธ์และแผนดำเนินธุรกิจ 3 ด้าน คือ 1. กลยุทธ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายสอดคล้องความต้องการตลาดและกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการเพิ่มบัตรสมาชิกเป็น 8 ประเภทจากเดิมที่มี 4 ประเภท โดยเริ่มทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่มาตั้งแต่เดือน ส.ค. 59

2. กลยุทธ์ด้านราคา ด้วยการกำหนดราคาบัตรสมาชิกให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเลือกผลิตภัณฑ์บัตรสมาชิกในระดับที่พอใจ และ 3. กลยุทธ์ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายระดับโลก คือ บริษัท เฮนลีย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งมี 38 สาขาทั่วโลก เพิ่มเติมจากเอเยนต์ของบริษัทฯ ซึ่งมี 21 สาขาทั่วโลก

สำหรับผลประกอบการปี 2559 (สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 59) บริษัทฯ มียอดขายบัตรสมาชิก 362 ล้านบาท สูงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 350 ล้านบาท สร้างรายได้จากสมาชิกบัตร 1,700 ล้านบาท โดยมีกำไร 195.07 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 107.34 ล้านบาท เติบโตกว่า 82% โดยมีอัตราขายสมาชิกเฉลี่ยเดือนละ 60 ราย สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 10% จากที่กำหนดไว้เดือนละ 54 ราย ส่งผลให้มีสมาชิกทั้งสิ้น ณ วันที่ 16 ธ.ค. 59 เป็นจำนวน 4,037 ราย คิดเป็นสมาชิกก่อนปี 2556 (สิทธิประโยชน์ฟรีตลอดชีพ) 2,508 ราย และสมาชิกใหม่ระหว่างปี 2556-2559 จำนวน 1,529 ราย

ในส่วนของผู้ถือบัตรสมาชิกมีอายุตั้งแต่ 30-60 ปี คิดเป็นผู้ชาย 80% ผู้หญิง 20% โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายตามกลุ่มอาชีพ 5 กลุ่ม คือ นักท่องเที่ยวระดับสูง, เจ้าของธุรกิจ, ผู้สูงอายุวัยเกษียณ, นักลงทุน และนักเรียนนักศึกษา ขณะที่ประเทศที่เป็นสมาชิกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อังกฤษ 198 ราย จีน 149 ราย ฝรั่งเศส 128 ราย สหรัฐอเมริกา 126 ราย และญี่ปุ่น 103 ราย

“ในปี 2560 บริษัทฯ จะขยายตลาดใหม่ๆ เพิ่ม คือ ออสเตรเลีย บังกลาเทศ รัสเซีย กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เยอรมนี และสิงคโปร์ โดยตั้งเป้ายอดสมาชิกเพิ่มขึ้น 678 ราย จากนั้นในปีถัดไปยังจะขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังประเทศในแถบยุโรป แอฟริกา และอินเดีย หลังจากนั้นจึงจะเริ่มทำตลาดลาว อินโดนีเซีย พม่า กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย เพื่อให้มีรายได้เป็นไปตามเป้าหมาย 1 พันล้านบาทภายใน 3 ปี” นายพฤทธิ์กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น