แผนการจัดซื้อรถเมล์ NGV ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ( ขสมก. )จำนวน 489 คัน วงเงิน 1,735 ล้านบาท จากบริษัท เบสท์รินฯ ที่ชนะการประมูล แต่ส่อเค้าว่าจะเป็นปัญหาใหญ่กับ ขสมก. หากมีการรับมอบรถเมล์ NGV เพราะกรมศุลกากร ตรวจพบว่าเบสท์รินฯ นำหลักฐานการนำเข้ารถ NGV สำแดงเอกสาร From D เท็จ สำหรับรถ 100 คันแรก ส่วนที่เหลือสำแดงว่ารถเมลล์ประกอบมาจากมาเลเซีย โดยไม่ใช่ From D กรมศุลจะเรียกเก็บภาษาเพียงอย่างเดียวไม่ได้
สิ่งที่เกิดขึ้นการสำแดงเอกสารเท็จ จริงเป็นเรื่องที่กรมศุลต้องตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงนี้แหล่งกำเนิดของรถมาจากที่ประเทศใดกันแน่ ขณะที่ขสมก. จะรับรถหรือไม่ นั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามสัญญา ทำให้ ขสมก.ตอนนี้เกิดอาการ"กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก" เนื่องจากเบสท์รินฯ อ้างว่ารถประกอบในมาเลเซีย เพื่ออาศัยข้อตกลงทางการค้า AFTA ยกเว้นภาษีนำเข้า 40 % แต่จะพิสูจน์อย่างไรว่ารถประกอบในมาเลเซียจริง
ทั้งนี้หากเป็นรถยนต์ที่ประกอบในมาเลเซียจริง ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายศุลกากรของมาเลเซีย ได้รับการยกเว้นภาษีและชิ้นส่งและภาษีส่งออก ซึ่ง ขสมก. ตรวจสอบได้ว่า เบสท์รินฯ ยื่นเอกสารศุลกากรมาเลเซีย เพื่อยกเว้นภาษีนำเข้า
ขณะที่หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน อย่างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งจับตามองประเด็นการรับมอบรถเมล์NGV ว่าหาก ขสมก. มีการตรวจรับรถเมล์ NGV ก็จะเข้าข่ายความผิดอย่างแน่นอน เพราะเนื่องจากมีการสำแดงแหล่งกำเนิดและเอกสารที่มาของรถเป็นการเลี่ยงภาษี ซึ่งทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ และเป็นการทำผิดกฎหมาย
หากจะมีการรับมอบรถเมล์ ก็ต้องแสดงให้เห็นว่า"การรับมอบนี้ประเทศชาติได้ประโยชน์" และไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถทำได้ เช่น มีการรถราคา รถเมล์ NGVลงมาอีก ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าปัญหาการตรวจรับรถเมล์ NGV คงยังไม่มีใครกล้าตรวจรับ เพราะหลายหน่วยงานทั้งอัยการ และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกำลังจับจ้อง ดังนั้นคนใน ขสมก.จึงไม่มีใครกล้าแตะเผือกร้อน
ได้แต่รอดูท่าที แม้ในวันนี้จะมีการประชุมแว่วมาว่า ขสมก. จะมีการลักไก่รับรถเมล์ล็อตหลัง 389 คัน ก็ยังต้องคิดให้หนัก คงยังไม่มีใครกล้ารับแน่นอน เพราะต้องรอกรมศุลกากรชี้ขาดแหล่งกำเนิดที่มาของรถเมล์อย่างชัดเจน
ยิ่งกระแสตอนนี้ "รัฐบาลประยุทธ" กำลังจับตาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ฉาวโฉ่ในรัฐวิสาหกิจของไทย
หากไม่ทำด้วยความระมัดระวัง "ขสมก. "จะเป็นอีกหน่วยงานที่จะต้องถูกเล่นงานจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินอย่างแน่นอน เพราะดูทิศทางแล้ว "สตง.ฟันเปรี้ยง" ออกมาแล้วว่า ขั้นตอนที่มาของรถเมล์เอ็นจีวีนั้น แจ้งที่ไปที่มาไปตรงกับข้อเท็จจริง
จึงเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ขสมก.จะฝ่าด่านสตง.งานนี้ต้องเหนื่อยอีกเยอะ ส่วนผู้ใช้บริการ ขสมก.ก็ได้แต่ร้องเพลงรอต่อไป กว่าจะได้รถเมล์ใหม่มาให้บริการเมื่อใด