ผู้จัดการรายวัน 360 - “เดอะมอลล์” ปิดรายได้ปี 59 ทะลุ 54,000 ล้านบาท โต 4% คาดปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น ลุ้นขอโตเท่าเดิม พร้อมปรับแนวตลาดเน้นเทลเลอร์เมด และเสริมกลยุทธ์ดึงลูกค้าใช้เวลาอยู่ในห้างนานขึ้น
นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2560 เดอะมอลล์กรุ๊ปตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 4% เท่ากับปี 2559 ที่เติบโต 4% จากรายได้รวมกว่า 54,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยนี้มา 4-5 ปีแล้ว และคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว ถ้าไม่มีปัจจัยอื่นที่อยู่นอกเหนือการควบคุมเกิดขึ้นอีก เช่น ปัญหาการเมือง ปัญหาภัยธรรมชาติ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกก็จะรุนแรงมากขึ้น เพราะมีทั้งคู่แข่งรายเก่าที่ขยายสาขาเพิ่ม และรายใหม่ที่เกิดขึ้นมาอีก อีกทั้งการแข่งขันจะแตกต่างกันไปตามทำเลด้วย เช่น ที่กรุงเทพฯ หรือแม้แต่ บลูพอร์ท หัวหิน เดอะมอลล์โคราช ซึ่งเดอะมอลล์ก็ต้องปรับตัวด้วย
สำหรับภาพรวมธุรกิจปลายปี 2559 ช่วงโครงการช้อปช่วยชาติ เดอะมอลล์มียอดขาย 300 ล้านบาท โต 10% ส่วนแคมเปญ มหกรรมลดทะลุพิกัด มียอดขายเพิ่ม 40% ขณะที่ยอดขายกระเช้าปีใหม่ ตกลง 15% เพราะผู้บริโภคปรับพฤติกรรมซื้อข้าวสารมาแจกปีใหม่กันมากขึ้น
นางสาวเสาวลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด กล่าวว่า บริษัทฯ จะสร้างกลยุทธ์การตลาดด้วยการให้ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่ในห้างค้าปลีกของเรามากขึ้น หรือ Spend Time จากแบบเดิมเน้นให้ผู้บริโภค Spending มาก จากเดิมเฉลี่ยอยู่ 1 ชั่วโมง 14 นาที หวังว่าจะเพิ่มเฉลี่ย 10 นาทีต่อปี ด้วย 5 กลยุทธ์หลัก คือ 1. ความสะดวก เช่น บริการรับจอดรถ มีโซนให้นั่งพักมากขึ้น 2. โปรโมชัน มีการจัดแคมเปญมากขึ้น 3. เมอร์ชันไดส์ การสรรหาสินค้าดี มีคุณภาพ พรีเมียม มานำเสนอ 4. ดิจิตอล ด้วยการเสริมระบบเทคโนโลยีต่างๆ และ 5. แบรนดิ้ง ซึ่งมีความชัดเจนในแต่ละแบรนด์ของเรา
“เมื่อลูกค้าใช้เวลาอยู่ที่เรานานขึ้น เขาก็จะมีการใช้บริการอย่างอื่นมากขึ้น เกิดการซื้อของจับจ่ายมากขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยจะให้ความสำคัญต่อบิ๊กดาต้า การเก็บข้อมูลและทำตลาดผ่านบัตรเอ็มการ์ด ปัจจุบันมีผู้ถือบัตร 3 ล้านราย เป็นผู้ชาย 30% ผู้หญิง 70% เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลเพื่อทำการตลาดกับลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่า เทลเลอร์เมด (Tailor Made) จะโฟกัสแบบตัวต่อตัว ไม่ทำเป็นแบบแมส”
ส่วนช่วงตรุษจีนปีนี้คาดว่าภาพรวมจะมีเงินสะพัดกว่า 50,000 ล้านบาท โดยเดอะมอลล์ใช้งบ 100 ล้านบาทจัดแคมเปญ กลอเรียส ไชนีสนิวเยียร์ วันที่ 19 ม.ค.-5 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีกิจกรรม การแสดง และมีสินค้าที่เกี่ยวกับตรุษจีนจำหน่าย รวมทั้งสิทธิพิเศษและโปรโมชันต่างๆ และคาดว่าจะมีรายได้รวมช่วงตรุษจีน 2,500 ล้านบาท
นายชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2560 เดอะมอลล์กรุ๊ปตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 4% เท่ากับปี 2559 ที่เติบโต 4% จากรายได้รวมกว่า 54,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยนี้มา 4-5 ปีแล้ว และคาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว ถ้าไม่มีปัจจัยอื่นที่อยู่นอกเหนือการควบคุมเกิดขึ้นอีก เช่น ปัญหาการเมือง ปัญหาภัยธรรมชาติ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกก็จะรุนแรงมากขึ้น เพราะมีทั้งคู่แข่งรายเก่าที่ขยายสาขาเพิ่ม และรายใหม่ที่เกิดขึ้นมาอีก อีกทั้งการแข่งขันจะแตกต่างกันไปตามทำเลด้วย เช่น ที่กรุงเทพฯ หรือแม้แต่ บลูพอร์ท หัวหิน เดอะมอลล์โคราช ซึ่งเดอะมอลล์ก็ต้องปรับตัวด้วย
สำหรับภาพรวมธุรกิจปลายปี 2559 ช่วงโครงการช้อปช่วยชาติ เดอะมอลล์มียอดขาย 300 ล้านบาท โต 10% ส่วนแคมเปญ มหกรรมลดทะลุพิกัด มียอดขายเพิ่ม 40% ขณะที่ยอดขายกระเช้าปีใหม่ ตกลง 15% เพราะผู้บริโภคปรับพฤติกรรมซื้อข้าวสารมาแจกปีใหม่กันมากขึ้น
นางสาวเสาวลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด กล่าวว่า บริษัทฯ จะสร้างกลยุทธ์การตลาดด้วยการให้ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่ในห้างค้าปลีกของเรามากขึ้น หรือ Spend Time จากแบบเดิมเน้นให้ผู้บริโภค Spending มาก จากเดิมเฉลี่ยอยู่ 1 ชั่วโมง 14 นาที หวังว่าจะเพิ่มเฉลี่ย 10 นาทีต่อปี ด้วย 5 กลยุทธ์หลัก คือ 1. ความสะดวก เช่น บริการรับจอดรถ มีโซนให้นั่งพักมากขึ้น 2. โปรโมชัน มีการจัดแคมเปญมากขึ้น 3. เมอร์ชันไดส์ การสรรหาสินค้าดี มีคุณภาพ พรีเมียม มานำเสนอ 4. ดิจิตอล ด้วยการเสริมระบบเทคโนโลยีต่างๆ และ 5. แบรนดิ้ง ซึ่งมีความชัดเจนในแต่ละแบรนด์ของเรา
“เมื่อลูกค้าใช้เวลาอยู่ที่เรานานขึ้น เขาก็จะมีการใช้บริการอย่างอื่นมากขึ้น เกิดการซื้อของจับจ่ายมากขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยจะให้ความสำคัญต่อบิ๊กดาต้า การเก็บข้อมูลและทำตลาดผ่านบัตรเอ็มการ์ด ปัจจุบันมีผู้ถือบัตร 3 ล้านราย เป็นผู้ชาย 30% ผู้หญิง 70% เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลเพื่อทำการตลาดกับลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่า เทลเลอร์เมด (Tailor Made) จะโฟกัสแบบตัวต่อตัว ไม่ทำเป็นแบบแมส”
ส่วนช่วงตรุษจีนปีนี้คาดว่าภาพรวมจะมีเงินสะพัดกว่า 50,000 ล้านบาท โดยเดอะมอลล์ใช้งบ 100 ล้านบาทจัดแคมเปญ กลอเรียส ไชนีสนิวเยียร์ วันที่ 19 ม.ค.-5 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีกิจกรรม การแสดง และมีสินค้าที่เกี่ยวกับตรุษจีนจำหน่าย รวมทั้งสิทธิพิเศษและโปรโมชันต่างๆ และคาดว่าจะมีรายได้รวมช่วงตรุษจีน 2,500 ล้านบาท