“สมอ.” ดัน “มอก.9999” มาตรฐานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงภาคอุตสาหกรรมเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศคาดหวังจะประกาศได้เร็วๆ นี้เพื่อเผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ “ในหลวง รัชกาลที่ ๙”
นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า แผนงานปี 2560 สมอ.มีเป้าหมายที่จะยกระดับมาตรฐานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงภาคอุตสาหกรรม หรือ มอก.9999 เป็นมาตรฐานระหว่างประเทศซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่ สมอ.ได้ดำเนินงานที่ผ่านมาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยคาดหวังว่าจะประกาศได้ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ มอก.9999 เป็นการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในภาคอุตสาหกรร มุ่งหวังที่จะเผยแพร่และประยุกต์ใช้ในวงกว้างมากขึ้น โดยยึดหลัก 3 ประการ คือ 1. ประมาณตน ให้รู้จักประมาณตนเรื่อง เรื่องทุน การผลิตและการตลาด 2. ใช้เหตุผล คือ เลือกดำเนินการในสิ่งที่เก่งและถนัด 3. สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหรือรู้จักบริหารความเสี่ยง มีแผนการจัดการกับความไม่แน่นอน จึงไม่ควรใช้จ่ายฟุ่มเฟือย หรือก่อหนี้จนกินตัว
นอกจากนี้แล้ว สมอ.ยังจะขยายโครงการ “ร้าน มอก.” เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคโดยให้ร้านที่ร่วมโครงการจะจำหน่ายสินค้าที่มี มอก. โดยมีผู้ร่วมโครงการแล้ว 8 ราย รวม 343 สาขา และอยู่ระหว่างคัดเลือกผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 5 ราย โดย 8 รายที่ร่วมโครงการแบ่งเป็นร้านโมเดิร์นเทรด 5 ราย ได้แก่ 1. บมจ.สยามแม็คโคร 98 สาขา 2. บ.เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม 173 สาขา 3. บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ 78 สาขา 4. บ.ซีอาร์ซี ไทวัสดุ 42 สาขา 5.Global House 40 สาขา ส่วนร้านจำหน่ายที่ร่วมโครงการ ได้แก่ 1. บ.ไฟฟ้าชัยมงคล 2. บ.ฮ.รุ่งเรืองดิจิตอล (2000) 3. บ.ฮ.รุ่งเรือง จำกัด
“ร้าน มอก.นั้นเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายใน 5 ปีจะมีร้าน มอก.ครบ 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ส่วนมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ มผช. ได้โอนภารกิจไปให้จังหวัดดำเนินงานแทน ส่วนเราก็จะดูว่าจะยกระดับนำมาทำอย่างไรให้ก้าวไปสู่ มอก. ส่วนคนที่ไม่ผ่านก็จะร่วมกับเครือข่ายดำเนินงานให้ผ่าน มผช.” นายพิสิฐกล่าว
สำหรับการปรับปรุงกระบวนการออกใบอนุญาตอย่างต่อเนื่องขณะนี้ สมอ.อยู่ระหว่างการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพิจารณาใบอนุญาต (E-License) เพื่อรองรับอุตสาหกรรม 4.0 และเพิ่มช่องทางการให้บริการรับคำขอใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการเร็วขึ้น คาดว่าจะนำระบบดังกล่าวมาดำเนินการได้กลางปีนี้ ขณะเดียวกันยังได้ถ่ายโอนงานการตรวจประเมินโรงงานให้หน่วยรับรองหน่วยตรวจ (IB) ดำเนินงานแทน สมอ.ซึ่งขณะนี้มี 14 หน่วยงาน
“สมอ.จะปรับกลุ่มงานที่มีหน้าที่ตรวจมาตรฐานมาเป็นกองพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะกำหนดวางกรอบให้ IB คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้” เลขาธิการ สมอ.กล่าว