ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังในฤดูแล้งเพื่อประหยัดน้ำต้นทุน โดยให้เกษตรกรเปลี่ยนไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนนั้น สำนักงานจัดรูปที่ดินกลาง โดยสำนักงานผู้จัดรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีได้วางแผนส่งเสริมให้พื้นที่จัดรูปที่ดินบ้านตาลเสี้ยน ต.รางสาลี่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นโครงการต้นแบบ ตั้งแต่ฤดูนาปรัง 2558/2559 ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ เกษตรกรในโครงการได้ลดพื้นที่การทำนา โดยหันไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยกว่า เช่น พืชผักสวนครัว รวมทั้งขยายพื้นที่ปลูกดีปลี ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรราคาแพงมากขึ้น นอกจากนั้น มีการเลี้ยงไก่ไข่ เป็ดไข่ ปลานิล ปลาตะเพียน หมูหลุม กระทั่งจิ้งหรีดในเชิงพาณิชย์
“ปีที่แล้วเป็นการเริ่มต้นปรับเปลี่ยน เพราะเกษตรกรเข้าใจข้อจำกัดของน้ำต้นทุน อีกทั้งราคาข้าวไม่เป็นใจ จึงพยายามดิ้นรนไปสร้างอาชีพใหม่จากที่ดินที่มีอยู่แล้ว ปีนี้เริ่มมั่นใจมากขึ้น เพราะทำแล้วได้ผล และขยายกลุ่มกันทำมากขึ้น”
นายวัฒนา สีรี ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำบ้านตาลเสี้ยน กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลขอร้องให้ลดการทำนาก็พยายามหาอาชีพใหม่มาเสริมหรือทดแทนข้าวที่ราคาต่ำ สมาชิกของกลุ่มเสาะแสวงหาทั้งพืช สัตว์ปีก และสัตว์น้ำ กระทั่งสัตว์ที่ขายไปเป็นอาหารคนอย่างจิ้งหรีด จนสามารถมองเห็นลู่ทางที่จะเปลี่ยนจากนาข้าวเป็นอย่างอื่น ทั้งพืชและสัตว์ เพราะเริ่มเห็นว่ารายได้ดีกว่าการทำนา
“ทุกคนต้องวางแผนการผลิต ส่วนใหญ่ไปดูว่าตัวเองเหมาะจะทำอะไร แล้วค่อยไปดูตัวอย่างตามที่ต่างๆ แล้วกลับมาวางแผนทำ อย่างผมเองไปเห็นเขาเลี้ยงเป็ดไข่ที่กำแพงแสนก็เข้าไปคุยกับเขา ศึกษาและวางแผนเลี้ยงทั้งที่ไม่เคยเลี้ยงมาก่อน แต่ค่อยๆ เรียนรู้จนทำได้ ตอนนี้หลายคนเริ่มยึดเป็นอาชีพหลักแทนการทำนา เพราะรายได้ดีกว่า”
นายพิจิตต์ บรรณรงค์ หัวหน้าสำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เกษตรกรบ้านตาลเสี้ยนภายใต้กลุ่มผู้ใช้น้ำรวมกลุ่มได้เข้มแข็งมาตั้งแต่จัดรูปที่ดินใหม่ๆ และเป็นคนรุ่นใหม่ที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งมีการส่งเสริมเกษตรกรภายใต้โครงการเกษตรยั่งยืน ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาความคิดของเกษตรกรให้รู้จักศักยภาพตัวเอง วางแผนและพัฒนา ตลอดจนพาไปดูงานตามที่ต่างๆ แล้วกลับมาวิเคราะห์และประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต