ผู้จัดการรายวัน 360 - “บางจาก” คว้าสิทธิ์มาสเตอร์ไลเซนส์ซูเปอร์มาร์เกต “SPAR” จากแดนกังหัน เป็นประเทศที่ 44 เตรียมเปิดขายแฟรนไชส์ปลายปี 2561 รับแผนขยาย 400 สาขาในปี 2563 พร้อมทำรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มสัดส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจนอน-ออยล์ จาก 10% เป็น 30% ย้ำยังคงเป็นพันธมิตรกับ “มินิ บิ๊กซี” ในสถานีบริการน้ำมันบางจากเช่นเดิม
นายโทไบอัส วาสต์มุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สพาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งรายใหญ่ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ใช้เวลาในการพิจารณารายละเอียดต่างๆ ประมาณ 1 ปี เพื่อมอบสิทธิ์มาสเตอร์ไลเซนส์ซูเปอร์มาร์เกต “SPAR” (สพาร์) ให้ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด (BCR) ดำเนินงานอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ถือเป็นลำดับที่ 44 ของโลก รวมจำนวนกว่า 1.21 หมื่นแห่ง หลังจากเพิ่งขยายธุรกิจไปยังอินโดนีเซียเมื่อปี 2558 เนื่องจากมั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ BCR ทั้งยังเห็นว่าธุรกิจค้าปลีกประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายวิบูลย์ วงสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ เปิดให้บริการซูเปอร์มาร์เกต SPAR สาขาแรก ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาราชพฤกษ์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา ในเร็วๆ นี้จะเปิดสาขา 2 ริมถนนกาญจนาภิเษก ช่วงตัดถนนเอกชัย โดยคาดว่าภายในปี 2559 จะขยายสาขาได้ประมาณ 5-7 แห่ง รวมถึงการเปิดสาขาต้นแบบที่ตั้งนอกสถานีบริการน้ำมันบางจาก ณ สำนักงานใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ถ.สุขุมวิท 64 กรุงเทพฯ
บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาให้ครบ 400 แห่งภายใน 5 ปี หรือปี 2563 คิดเป็นการขยายสาขาเฉลี่ยปีละ 50-80 แห่งทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดยคาดว่าจะสามารถทำรายได้ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมช่วยผลักดันรายได้ของกลุ่มธุรกิจไม่ใช่น้ำมันจากปัจจุบัน 10% เพิ่มขึ้นเป็น 30% บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนเองประมาณ 3 พันล้านบาท นอกจากนั้นในปี 2561 ยังจะเปิดขายแฟรนไชส์คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 3 พันล้านบาท
สำหรับรูปแบบการลงทุนมี 3 ลักษณะ คือ 1. ฟรีสโตร์ (Free Store) ขนาดพื้นที่ 150 ตร.ม. ใช้เงินลงทุน 10 ล้านบาท 2. เนเบอร์ฮูดสโตร์ (Nabourhood Store) ขนาดพื้นที่ 300 ตร.ม. ใช้เงินลงทุน 15-20 ล้านบาท 3. ซูเปอร์มาร์เกต (Supermarket) ขนาดพื้นที่ 500 ตร.ม.ขึ้นไป โดยใช้แนวคิด SPAR “Fresh & Easy Food Market” เน้นจุดเด่นคือการเชื่อมโยงธุรกิจอาหารสด ร้านอาหารพร้อมปรุง “Lemon Kitchen” ร้านกาแฟ “อินทนิล” พร้อมสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป
“SPAR ยังเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชุมชนและสินค้าโอทอปตามนโยบาของบางจากฯ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ SPAR โดยคาดว่าภายใน 5 ปีจะมีสัดส่วนประมาณ 50% ของสินค้าทั้งหมดที่มีการจำหน่ายใน SPAR โดยในส่วนของรูปแบบเนเบอร์ฮูดสโตร์ และซูเปอร์มาร์เกตจะมีการจัดพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็น Co-Working พร้อมให้บริการฟรีไวไฟ โดยในช่วง 1 เดือนที่เปิดให้บริการพบว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1 พันราย”
นายวิบูลย์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเป็นพันธมิตรร่วมกับ “มินิ บิ๊กซี” นั้นยังคงเป็นไปเช่นเดิมซึ่งจะยังคงมีการขยายสาขาในสถานีบริการน้ำมันบางจากที่เปิดให้บริการแล้วในบางพื้นที่ตามความเหมาะสม แต่สำหรับสถานีบริการน้ำมันบางจากที่จะเปิดใหม่จะเน้นลงทุน SPAR เป็นหลัก โดยคาดว่าในปี 2560 จะมีการขยายสาขาสถานีบริการน้ำมันประมาณ 60 แห่ง
อนึ่ง บริษัท บางจาก รีเทล จำกัด ดำเนินธุรกิจหลัก 3 ส่วน คือ ซูเปอร์มาร์เกต SPAR ร้านกาแฟ “อินทนิล” ประมาณ 400 สาขา และธุรกิจอาหาร Lemon Kitchen โดยคาดว่าในปี 2559 จะมีรายได้ประมาณ 700 ล้านบาท