บรรยากาศโดยรวมของการจัดงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 13-24 ตุลาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แม้จะเป็นไปอย่างเรียบง่ายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะตรงกับช่วงเวลาที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 แต่กลับสร้างปรากฏการณ์ให้เกิดขึ้นแก่วงการสิ่งพิมพ์อย่างไม่เคยมีมาก่อนคือ ประชาชนจำนวนมากต่างมีความต้องการหนังสือพระราชนิพนธ์ รวมถึงหนังสือรวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ความต้องการดังกล่าวของประชาชนล้วนเป็นเพราะต้องการเก็บรักษาไว้เป็นความทรงจำและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในด้านต่างๆ ส่งผลให้สำนักพิมพ์แต่ละแห่งที่มาร่วมงานครั้งนี้ต่างมียอดจำหน่ายสูงขึ้นมากจากหนังสือต่างๆ เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติแต่ละครั้ง พบว่าหนังสือเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจทุกครั้งแม้จะไม่ใช่กลุ่มที่ได้รับความสนใจมากสุดก็ตาม แต่สำหรับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 21 ซึ่งเพิ่งสิ้นไป โดยมีผู้เข้าร่วมชมงานสูงถึง 1.7 ล้านคน พบว่าหนังสือที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือ หนังสือพระราชนิพนธ์ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากปรกติหนังสือที่ติดอันดับขายดีสุดมักเป็นกลุ่ม วรรณกรรม นวนิยาย ตลอดจนหนังสือที่เกี่ยวกับ ศาสนา และเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้รักการอ่านและเก็บสะสมหนังสือ
“พระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ทุกคนอยากทำความดี โดยเรื่องราวของพระองค์ถูกบันทึกผ่านหนังสือหลายต่อหลายเล่ม มีหลายสำนักพิมพ์ด้วยกันที่จัดแสดงหนังสือที่เกี่ยวข้องกับพระราชนิพนธ์ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยแสดงให้เห็นถึงการทรงงานหนักของพระองค์ตลอดการครองราชย์นานถึง 70 ปีที่ผ่านมา และหนังสือเหล่านี้ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนที่ต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก”
นายจรัญ กล่าวต่อว่า หนังสือที่เกี่ยวข้องกับพระราชนิพนธ์ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชในงานงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 21ครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นการจัดพิมพ์ไว้ก่อนอยู่แล้ว จึงไม่สามารถสั่งพิมพ์ได้ทันหลังจากที่พระองค์เสด็จสวรรคต
“ในปี 2560 ภาพรวมตลาดหนังสือจะดีขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่สำนักพิมพ์ต่างๆ จะมีการผลิตหนังสือที่เกี่ยวเนื่องกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในรูปแบบที่มีความปราณีตและคุณภาพงานที่ทรงคุณค่าสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก”
ในช่วงที่ผ่านมาหนังสือเกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือหนังสือที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องมีการผ่านการตรวจพิจารณาจากหน่วยงานใดก่อน สำนักพิมพ์ต่างๆ สามารถจัดพิมพ์ได้อย่างเสรี จึงเชื่อว่าปีหน้าหนังสือเกี่ยวกับพระราชนิพนธ์ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเป็นหนังสือที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด
นายจรัญ กล่าวในตอนท้ายว่า จากงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 21 พบว่า ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มาพร้อมกับเพื่อน และกลุ่มครอบครัวที่มาเลือกซื้อหนังสือต่างๆ ด้วยกัน สำหรับหมวดหนังสือที่ได้รับความนิยมจากนักอ่านเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาทิ นิยายวัยรุ่น แฟนตาซี กราฟฟิคโนเวล และสารคดีความรู้ประเภทต่างๆ โดยงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติครั้งต่อไป หรือในครั้งที่ 45 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 15 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม - 9 เมษายน. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“สี่แผ่นดิน” หมดสต็อก! “ดอกหญ้า” เร่งพิมพ์เพิ่ม
นายณัฐสิทธิ์ จันทร์แก้ว บรรณาธิการบริหาร สำนักพิมพ์ดอกหญ้า 2000 บริษัท เดอะบุ๊คส์เลิฟเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า การเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังส่งผลให้ประชาชนมีความสนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระบรมราชวงศ์และพระราชวัง ตลอดจนเรื่องราวต่างๆ ในอดีตของประเทศไทยมากขึ้น โดยในส่วนของ สำนักพิมพ์ดอกหญ้า สามารถจำหน่ายหนังสือในหมวดดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 100% ในเวลาเพียงไม่กี่วันจากทุกครั้งที่ผ่านมา
สำนักพิมพ์ดอกหญ้า ซึ่งกำหนดตำแหน่งทางการตลาดเป็นสำนักพิมพ์วรรณกรรมทรงคุณค่า ทั้งยังเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผู้จัดพิมพ์นวนิยายชิ้นเอกเรื่อง “สี่แผ่นดิน” ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ถือว่าได้รับพระบารมีอย่างล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้จาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อมีประชาชนจำนวนมากต่างแสดงความสนใจซื้อนวนิยายเรื่อง “สี่แผ่นดิน” จนหมดสต๊อกเป็นจำนวน 400 เล่มภายในเวลาเพียง 3 วันนับจากพระองค์เสด็จสวรรคต
จากการร่วมงานมหกรรมหนังสือฯ ทุกครั้งที่ผ่านมา หนังสือเหล่านี้ได้รับความสนใจจากประชาชนไม่มากเท่าที่ควร โดยมักจำหน่ายนวนิยายเรื่อง “สี่แผ่นดิน” ได้เพียง 100-200 เล่มต่อการออกงาน 10 วัน เมื่อการออกงานในปีนี้ตรงกับช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์เศร้าสลดอย่างไม่คาดคิดของประชาชนทั้งแผ่นดินไทย จึงทำให้ สำนักพิมพ์ดอกหญ้า ไม่ได้เตรียมสต็อกไว้ล่วงหน้า เพราะไม่คาดว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากเช่นนี้ ล่าสุดจึงจะมีการจัดพิมพ์เพิ่มอย่างน้อยประมาณ 2 พันเล่มเพื่อตอบสนองความต้องการผู้สนใจต่อไป แต่คงไม่สามารถจัดพิมพ์เพื่อจำหน่ายภายในงานครั้งนี้แล้ว
ทั้งนี้ การร่วมงานมหกรรมหนังสือฯ ครั้งนี้ สำนักพิมพ์ดอกหญ้า ยังสามารถจำหน่ายผลงานหนังสืออื่นๆ ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เพิ่มขึ้นมากกว่าปรกติ เช่น “พม่าเสียเมือง” รวมถึงผลงานเรื่อง “นิทานโบราณคดี” ของ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตลอดจนหนังสือต่างๆ เกี่ยวกับพระราชวังของประเทศไทย
นายณัฐสิทธิ์กล่าวด้วยว่า สำนักพิมพ์ดอกหญ้าดำเนินธุรกิจจัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือประเภทต่างๆ มานานถึง 32 ปี ปัจจุบันมีรายได้หลัก 95% จากการจำหน่ายผ่านร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศประมาณ 300-400 ร้าน ส่วนอีก 5% เป็นการจำหน่ายผ่านสาขา 2 แห่ง คือ ท่าพระจันทร์ และหัวหมาก โดยมีสมาชิกหมุนเวียนซื้อหนังสือปีละประมาณ 4-5 หมื่นคน
“ธุรกิจหนังสือและพ็อกเกตบุ๊กยังคงเป็นที่ต้องการของผู้อ่านและไม่ได้รับผลกระทบจากสื่อออนไลน์มากนัก เพราะผู้อ่านยังต้องการจับต้องและซื้อเก็บไว้อ่านตามโอกาสต่างๆ เช่น การพักผ่อนในวันหยุด โดยหนังสือบางปกผู้อ่านยังมักมีพฤติกรรมซื้อครั้งละ 2 เล่ม เพื่ออ่าน 1 เล่มและเก็บเป็นของสะสม 1 เล่ม ซึ่งแตกต่างจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่จำเป็นต้องพึ่งพาโฆษณาเป็นหลักและได้รับผลกระทบโดยตรงจากสื่อออนไลน์”
นายณัฐสิทธิ์กล่าวตอนท้ายว่า ในปี 2560 บริษัทฯ มีแผนปรับตัวเป็นสำนักพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายเต็มรูปแบบ โดยจะภาพลักษณ์สาขาและหน้าปกหนังสือทั้งเก่าและใหม่ให้มีความทันสมัยพร้อมเน้นช่องทางการตลาดผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น แต่ไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านระบบการบริหารจัดการบางด้าน
เครือ “อมรินทร์ฯ” เผย 4 อันดับหนังสือขายดี
นายองอาจ จิระอร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานหนังสือเล่ม บริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการร่วมงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ระหว่างวันที่ 13-24 ตุลาคม 2559 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดย ร้าน “นายอินทร์” มีการนำหนังสือต่างๆ เกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาจำหน่ายแก่ประชาชนผู้สนใจประมาณ 10 ปก ปรากฏว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นจากทุกปีที่ผ่านมามากกว่า 1 เท่าตัว
สำหรับหนังสือที่ประชาชนให้ความสนใจและมียอดซื้อสูงสุด 4 อันดับแรก ได้แก่พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรื่อง “นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ”, “ติโต, “พระมหาชนก” และ “คุณทองแดง” ขณะเดียวกันยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ให้ความสนใจและสอบถามเกี่ยวกับหนังสือเรื่อง “แม่เล่าให้ฟัง” และ “เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์” โดย สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
นายองอาจกล่าวด้วยว่า สำหรับหนังสือดีอีก 1 เล่มที่ขอแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสมาร่วมงานมหกรรมหนังสือฯ คือ “108 มงคล พระบรมราโชวาท” ซึ่งรวบรวมส่วนหนึ่งของพระบรมราโชวาทที่เกี่ยวเนื่องกับหลักคิดในการดำเนินชีวิตที่ทรงพระราชทานต่อคนไทย เพื่อเตือนใจและใช้เป็นแสงสว่างและเป็นมงคลต่อชีวิต ทั้งยังทำให้รู้ว่า พระองค์ทรงห่วงใยและดูแลพสกนิกรด้วยพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้ โดยผู้สนใจสามารถซื้อได้ในราคาเล่มละ 59 บาทที่ร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นทั่วประเทศ
“ปรากฏการณ์ความสนใจของประชาชนที่ต้องการหนังสือเกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งนี้ ผมไม่อยากให้ใช้คำว่า กระแส หรือเทรนด์ เพราะถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ โดยในส่วนตัวที่อยู่ในวงการสิ่งพิมพ์ยังถือว่าการนำเสนอพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และอื่นๆ ผ่านหนังสือเป็นการถวายงานและเทิดพระเกียรติพระองค์ให้เผยแพร่ในวงกว้างอย่างทั่วถึง เสมือนพระสงฆ์ทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” นางองอาจกล่าวในที่สุด
สนพ. “แสงดาว” ร่วมนำเสนอ “รักแรกมหาราช”
ด้าน น.ส.พัทธนันท์ ภัทรบูชา ฝ่ายการตลาด บริษัท สำนักพิมพ์แสงดาว จำกัด เปิดเผยว่า สำนักพิมพ์ “แสงดาว” เป็นผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือพระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรื่อง “รักแรกมหาราช” โดยมีการนำมาเสนอต่อผู้สนใจภายในงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากผู้อ่านปละสามารถจำหน่ายได้ถึงวันละ 40-50 เล่ม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งจำหน่ายได้วันละประมาณ 10 เล่ม
หนังสือพระราชประวัติ เรื่อง “รักแรกมหาราช” เป็นการรวบรวมพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับตั้งแต่เสด็จพระราชสมภพ ทรงการศึกษา ตลอดจนเหตุการณ์เมื่อครั้ง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งราชวงศ์จักรี รวมถึงเหตุการณ์เมื่อทรงพบกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ก่อนทรงประสบอุบัติเหตุ และอื่นๆ จึงถือเป็นหนังสือดีอีกหนึ่งเล่มที่มีคุณค่าและควรเก็บไว้น้อมรำลึกถึงพระองค์
สิ่งพิมพ์รวมใจจัดทำฉบับพิเศษ
ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมถึงบรรยากาศงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ด้วยว่า นอกจากจะมีผู้สนใจซื้อหนังสือต่างๆ เกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเก็บเป็นที่ระลึกแล้ว ยังมีกลุ่มผู้ฉวยโอกาสตระเวนซื้อหนังสือเก่า หรือหนังสือหายากที่นำเสนอเรื่องราว หรือพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ แล้วนำไปจำหน่ายต่อในราคาสูงจากเดิม
อย่างไรก็ตาม สื่อสิ่งพิมพ์และสำนักพิมพ์ต่างๆ มีการจัดทำนิตยสารฉบับพิเศษเพื่อสนองความต้องการของประชาชนทั่วไป ด้วยการนำเสนอภาพปกของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ พร้อมเนื้อหาพิเศษเกี่ยวกับพระองค์ เช่น
นิตยสาร “ผู้จัดการ 360 สุดสัปดาห์ ฉบับพิเศษ” ฉบับที่ 364 ประจำวันที่ 22-28 ตุลาคม 2559 นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมทั้งบทความ สารคดี ภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทั้งเก่าและใหม่ พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตมันสี่สีสวยงามเพิ่มพิเศษ 8 หน้า จำหน่ายราคา 50 บาท เริ่มวางแผงแล้ว ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ตามแผงหนังสือทั่วไป หรือติดต่อทาง Line : baan_athit Line@ : @baan_athit Facebook : www.facebook.com/BaanPhraAthit และโทร.08-2782-8353, 0-2629- 4755-6, 0-2629-4488 ต่อ 1472
นิตยสาร “สกุลไทย” ฉบับสุดท้ายปิดตำนาน 61 ปี “สกุลไทย” ด้วยการรวบรวมภาพพระบรมฉายาลักษณ์ซึ่งคัดสรรมาจากคลังภาพของนิตยสารสกุลไทยทั้งหมด 3,236 ฉบับ โดยจะวางแผงวันที่ 31 ตุลาคม 2559
นิตยสาร “ขวัญเรือน” ฉบับที่ 1079 ปักษ์แรกพฤศจิกายน 2559 จัดทำเนื้อหาพิเศษ รวบรวมทั้งพระราชประวัติ พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส พิธีอัญเชิญพระบรมศพ ฯลฯ จำหน่ายราคา 70 บาท
นิตยสาร “กุลสตรี” จัดทำฉบับพิเศษ “ราชาเหนือราชัน เสี้ยวของพ่อก็พึงใจ” ประมวลภาพพระบรมฉายาลักษณ์ 222 ภาพ พร้อมบทความพิเศษ พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตสี่สี จำนวน 124 หน้า จำน่ายราคา 199 บาท เริ่มวางจำหน่ายวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2559 ตามร้านหนังสือทั่วไป หรือสั่งจองได้ที่ โทร. 0-2277-0370
นิตยสาร “แพรว - แพรวฉบับพิเศษ ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย” รวบรวมพระราชประวัติ พระบรมฉายาลักษณ์ ภาพเหตุการณ์สำคัญ พระราชดำรัส พระราชกรณียกิจ ประกอบด้วยเนื้อหา 200 หน้า ไม่มีโฆษณา หน้าปกปั๊มทอง พิมพ์สี่สีทั้งเล่ม เปลี่ยนเป็นกระดาษหนากว่าฉบับปกติ วางจำหน่ายประมาณวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ราคา 199 บาท สั่งจองได้ที่ร้านนายอินทร์ทุกสาขา และ www.naiin.com
นิตยสาร “สารคดี” เพิ่มยอดพิมพ์พิเศษฉบับที่ 380 ประจำเดือนตุลาคม 2559 ประกอบด้วยเนื้อหาพิเศษกว่า 80 หน้า ทั้งประมวลภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์, เจาะลึกเหตุการณ์วันสวรรคตตั้งแต่รัชกาลที่ 1-8 และบทสรุปแห่งพระมหากรุณาธิคุณ จัดพิมพ์บนกระดาษอาร์ต 4 สี อย่างดี ไม่รับสั่งจองล่วงหน้า ติดตามได้ที่แผงหนังสือเร็วๆ นี้ พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีนิตยสารสารคดี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เพื่อให้เป็นสาธารณะประโยชน์ที่ http://www.sarakadee.com/2016/10/19/free-download-king-cover/
นิตยสาร “a day” คัดสรรเนื้อหาบางส่วนจาก a day ฉบับที่ 88 (ธันวาคม 2550) พร้อมเนื้อหาที่จัดทำใหม่อย่างการรวบรวมพระบรมสาทิสลักษณ์ผลงานจากศิลปินชั้นนำระดับประเทศ ส่วนภาพปกเป็นผลงานของ “อังกฤษ อัจฉริยโสภณ” ซึ่งเป็นการพิมพ์พระบรมฉายาลักษณ์ด้วยเทคนิคปั๊มนูนบนหน้าปกสีขาว คาดว่าจะพิมพ์เสร็จวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 โดยเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่ http://aday195.online จนถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2559 ก่อนจะวางจำหน่ายที่ร้านหนังสือต่างๆ ต่อไป
นิตยสาร “a day BULLETIN” - จัดทำฉบับพิเศษ 9 ฉบับ ตั้งแต่ฉบับที่ 433 วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2559 โดยเนื้อหาภายในยกเลิกคอลัมน์ประจำทั้งหมด เพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ทั้งหมด นอกจากนี้ในฉบับที่ 432 ยังจัดทำพิเศษเป็นปกพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมประมวลภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ แจกฟรีตามจุดแจกทั่วกรุงเทพฯ รวมถึง BTS และ MRT
นิตยสาร “HAMBURGER” ฉบับที่ 54 ประจำวันที่ 19-25 ตุลาคม 2559 ภาพปกเป็นพระบรมสาทิสลักษณ์ที่วาดใหม่โดย “ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์” ภายในรวบรวมภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเนื้อหาสุดพิเศษ