สมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ร่วมกันตั้งกรอบการทำงานในการออกอากาศรายการ และลงโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องที่เป็นสมาชิกในช่วงพระราชพิธีสักการะ และน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ เป็นเวลา 1 เดือนตามนโยบายของรัฐบาล
นายเขมทัตต์ พลเดช นายกสมาพันธ์วิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร่วมกับนายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ร่วมกันประชุมกำหนดกรอบการออกอากาศโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ในช่วงพระราชพิธีสำคัญ และสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1) สมาชิกทั้ง 2 สมาคม เห็นชอบตามกรอบที่รัฐบาลกำหนด ในการงดรายการบางประเภท หรือปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์เป็นระยะเวลา 15-30 วัน
2) สถานีโทรทัศน์เห็นพ้องตามที่สมาคมมีเดียเอเยนซี และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ได้แจ้งให้เอเยนซีแจ้งต่อเจ้าของผลิตภัณฑ์ หากจะลงโฆษณาในสื่อต่างๆ ควรเปลี่ยนจากโฆษณาสินค้ามาเป็นร่วมแสดงความอาลัย และถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือการประชาสัมพันธ์โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) โครงการพระราชดำริ หรือรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำความดีเพื่อแผ่นดินแทน จะเป็นการสอดคล้องกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น
3) ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์แต่ละสถานีจะเข้มงวดพิจารณาและตรวจสอบลักษณะของรายการอย่างมีมาตรฐานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และไม่สวนทางกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนในขณะนี้
นายเขมทัตต์กล่าวว่า ขณะนี้สถานีโทรทัศน์ดิจิตอลได้น้อมถวายสักการะโดยเพิ่มมาตรฐานการนำเสนอรายการมากกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น การทำกราฟิกหน้าจอให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธี และการทำงานของรัฐบาล ตลอดจนนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์จะมีการหารือร่วมกันเป็นระยะๆ เพื่อให้บทบาทในฐานะสื่อมวลชนของทุกสถานีโทรทัศน์นำเสนอเนื้อหาที่ให้คนไทยเข้าถึงและเข้าใจมากที่สุด โดยขอความร่วมมือออกอากาศรายการ และลงโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องที่เป็นสมาชิกในช่วงพระราชพิธีสักการะ และน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ เป็นเวลา 1 เดือนตามนโยบายของรัฐบาล
นายเขมทัตต์ พลเดช นายกสมาพันธ์วิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ร่วมกับนายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ร่วมกันประชุมกำหนดกรอบการออกอากาศโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ในช่วงพระราชพิธีสำคัญ และสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1) สมาชิกทั้ง 2 สมาคม เห็นชอบตามกรอบที่รัฐบาลกำหนด ในการงดรายการบางประเภท หรือปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์เป็นระยะเวลา 15-30 วัน
2) สถานีโทรทัศน์เห็นพ้องตามที่สมาคมมีเดียเอเยนซี และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ได้แจ้งให้เอเยนซีแจ้งต่อเจ้าของผลิตภัณฑ์ หากจะลงโฆษณาในสื่อต่างๆ ควรเปลี่ยนจากโฆษณาสินค้ามาเป็นร่วมแสดงความอาลัย และถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือการประชาสัมพันธ์โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) โครงการพระราชดำริ หรือรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการทำความดีเพื่อแผ่นดินแทน จะเป็นการสอดคล้องกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น
3) ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์แต่ละสถานีจะเข้มงวดพิจารณาและตรวจสอบลักษณะของรายการอย่างมีมาตรฐานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และไม่สวนทางกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนในขณะนี้
นายเขมทัตต์กล่าวว่า ขณะนี้สถานีโทรทัศน์ดิจิตอลได้น้อมถวายสักการะโดยเพิ่มมาตรฐานการนำเสนอรายการมากกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น การทำกราฟิกหน้าจอให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธี และการทำงานของรัฐบาล ตลอดจนนำเสนอข่าวที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น
ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์จะมีการหารือร่วมกันเป็นระยะๆ เพื่อให้บทบาทในฐานะสื่อมวลชนของทุกสถานีโทรทัศน์นำเสนอเนื้อหาที่ให้คนไทยเข้าถึงและเข้าใจมากที่สุด โดยขอความร่วมมือออกอากาศรายการ และลงโฆษณาทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องที่เป็นสมาชิกในช่วงพระราชพิธีสักการะ และน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ เป็นเวลา 1 เดือนตามนโยบายของรัฐบาล