ผู้จัดการรายวัน 360 -“ไฮเซ่นส์” ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนบุกตลาดไทย ดันเป็นฐานรุกซีแอลเอ็มวี ประเดิมกลุ่มโทรทัศน์ ก่อนลุยเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น มือถือ ตู้แช่ เจาะช่องทางโมเดิร์นเทรดนำร่อง “เทสโก้ โลตัส” ทั่วไทย ยันไม่ใช้เอเยนต์ ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 800 ล้านบาท
นางแคทลีน ฟาง รองประธาน บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท ไฮเซ่นส์ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ถูกจัดตั้งขึ้นโดยใช้ทีมงานคนไทยเพื่อรุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยที่จะเป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญของ “ไฮเซ่นส์” (Hisense) และจะใช้เป็นฐานในการรุกตลาดซีแอลเอ็มวีในช่วง 3 ปีจากนี้ โดยมีแผนที่จะตั้งโรงงานผลิตในไทยด้วยหากมียอดขายที่มากเพียงพอ
บริษัทในประเทศไทยถือเป็นลำดับที่ 17 โดยสาเหตุที่เพิ่งเข้าทำตลาดในไทย ขณะที่ทำตลาดทั่วโลกแล้วกว่า 130 ประเทศและมีสำนักงานสาขาใน 16 ประเทศแล้ว เนื่องจากตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะโทรทัศน์ในไทยแข่งขันกันรุนแรงจากผู้ประกอบการจำนวนมาก ทั้งโลคัลแบรนด์และอินเตอร์แบรนด์ด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท จึงต้องรอให้มีความพร้อมและมั่นใจว่าสินค้ามีความเหมาะสมและมีคุณภาพเป็นที่ต้องการในไทย
ตามแผนงานจะรุกตลาดโทรทัศน์ก่อนเป็นลำดับแรก โดยเริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในช่องทางเครือข่ายค้าปลีกของ “เทสโก้ โลตัส” 120 สาขาที่เป็นไฮเปอร์มาร์เกต โดยวางตลาดไปแล้ว 95 สาขา และอยู่ระหว่างเจรจากับ “เพาเวอร์บาย” ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดอื่นๆ จะขยายต่อในอนาคต ยืนยันว่าไม่ใช้วิธีการแต่งตั้งเอเยนต์ โดยจะทำการจำหน่ายเองโดยตรงเหมือนในต่างประเทศ
ส่วนต้นปีหน้าจะเริ่มทำตลาดตู้เย็นและเครื่องปรับอากาศ จากนั้นในปีถัดไปหากตลาดพร้อมจะทำตลาดสมาร์ทโฟน ตู้แช่ และอื่นๆ ตามความเหมาะสม โดยตั้งเป้าหมายรายได้รวมในช่วง 1 ปีแรกประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 700-800 ล้านบาท และคาดว่าภายใน 5 ปีจากนี้จะมีรายได้รวม 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
“ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยเปลี่ยนไปมากและรวดเร็ว สนใจเทคโนโลยีและดีไซน์ โดยเฉพาะโทรทัศน์จอใหญ่ขนาด 55 นิ้ว และความละเอียดระดับ 4K ที่เป็นที่นิยมมากขึ้น ขณะที่โทรทัศน์แอลอีดีที่ไฮเซ่นส์นำเข้าจากจีนเน้นขนาดกลางถึงไฮเอนด์ ตั้งแต่ 32-85 นิ้ว สมาร์ทฟังก์ชันเต็มระบบ โดยสินค้าของไฮเซ่นส์จะจับกลุ่มระดับบน โดยโทรทัศน์จะมีราคาต่ำกว่าแบรนด์ใหญ่ของเกาหลี 10%” นางแคทลีนกล่าว
“ไฮเซ่นส์” มีศูนย์วิจัยและพัฒนารวม 13 แห่ง ได้แก่ จีน 6 แห่ง สหรัฐอเมริกา 5 แห่ง แคนาดา 1 แห่ง และเยอรมนี 1 แห่ง ถือเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนที่มียอดขายโทรทัศน์เป็นอันดับที่ 3 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในจีนถึง 13 ปีติดต่อกัน โดยในจีนมียอดขายโทรทัศน์ 10 ล้านเครื่องจากความต้องการตลาดรวม 48 ล้านเครื่อง มีรายได้รวมทั่วโลก 15.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์สปอร์ตมาร์เกตติ้งเป็นหลัก ขณะที่ในปี 2559 ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016