xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจไทยยื่นขอลงทุนกิจการ “วิจัยพัฒนา” - “ไบโอเทคโนโลยี” พุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บีโอไอเผยนักลงทุนไทยขานรับนโยบายใหม่บีโอไอ เตรียมลงทุนในกลุ่มวิจัยพัฒนา และไบโอเทคโนโลยี มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น การวิจัยพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สูตรเครื่องสำอาง วัคซีนป้องกันโรค ยารักษาโรค อาหารสัตว์ชีวภาพซึ่งช่วยลดการใช้ยาเลี้ยงสัตว์

นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ภายหลังจากบีโอไอได้เปลี่ยนนโยบายส่งเสริมการลงทุนมามุ่งเน้นส่งเสริมให้เกิดการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ปรากฏว่ามีนักลงทุนไทยและบริษัทคนไทยแสดงความสนใจและยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนหลายราย โดยเฉพาะในด้านการวิจัยและพัฒนา และด้านไบโอเทคโนโลยี รวมทั้งมีแนวโน้มที่บริษัทของคนไทยจะขยายการลงทุนในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากการเก็บข้อมูลการประชุมให้คำปรึกษาแก่นักลงทุนไทยพบว่ามีบริษัทคนไทยอีกหลายรายที่จะยื่นขอรับส่งเสริม

สำหรับกิจการในกลุ่มวิจัยและพัฒนาที่ได้รับการส่งเสริมแล้ว และเป็นกิจการที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ภาคอุตสาหกรรม เช่น กิจการวิจัยพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ของบริษัทวีราออโตโมทีฟ จำกัด เงินลงทุน 5 ล้านบาท และกิจการวิจัยพัฒนารถโดยสารขนาดใหญ่พลังงานไฟฟ้า ของบริษัท ไทยยานยนต์ไฟฟ้า จำกัด เงินลงทุน 40 ล้านบาท และกิจการวิจัยพัฒนาเครื่องจักรที่ใช้ในการหล่อโลหะแบบใหม่ ของบริษัทกิสโค จำกัด เงินลงทุน 5.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีกิจการวิจัยพัฒนาในกลุ่มอื่น ได้แก่ กิจการวิจัยพัฒนาสูตรเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด โดยมีลูกค้าเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางชั้นนำทั้งใน และต่างประเทศ กิจการวิจัยพัฒนากระบวนการคัดเลือกและผลิตเมือกหอยทากเพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ของบริษัท สยามสเนล จำกัด เงินลงทุน 22 ล้านบาท กิจการวิจัยพัฒนาในกลุ่มยาก็มีหลายโครงการ อาทิ กิจการวิจัยพัฒนาสายพันธุ์แบคทีเรียเพื่อใช้ในการผลิตวัคซีน เช่น วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไอกรน ของบริษัท ไบโอเนท เอเชีย จำกัด เงินลงทุน 1.2 ล้านบาท กิจการวิจัยพัฒนาวัคซีนรวมหรือวัคซีนสูตรผสมที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เช่น วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก และวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ของบริษัท ไบโอเนท เอเชีย จำกัด เงินลงทุน 2.78 ล้านบาท

สำหรับกิจการของคนไทยในกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน อาทิ กิจการเทคโนโลยีชีวภาพของ บริษัท สยามไบโอซาย จำกัด เพื่อผลิตยาชีววัตถุปลอดเชื้อจากแบคทีเรียและเซลล์สัตว์เพื่อใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง โรครูมาตอยด์ โรคภูมิแพ้ และโรคสะเก็ดเงิน เงินลงทุน 330 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัท สยามไบโอซาย จำกัด ยังมีกิจการเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อผลิตตัวทำปฏิกิริยาชีวภาพจากแบคทีเรียจากเซลล์สัตว์ และสารละลายที่ใช้ในเทคโนโลยีชีวภาพ เงินลงทุน 27 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าตัวทำปฏิกิริยาทางชีวภาพจากต่างประเทศ ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการนำเข้า ส่งผลให้ต้นทุนการตรวจวิเคราะห์ทั้งด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเกษตรลดลง

กิจการเทคโนโลยีชีวภาพที่บีโอไอให้การส่งเสริมยังมีโครงการในกลุ่มการผลิตอาหารสัตว์ด้วย โดยบริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด ลงทุน 70 ล้านบาท เพื่อวิจัยและพัฒนาการผลิตอาหารสัตว์หมักที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อให้สามารถสร้างเอนไซม์ที่ย่อยสารอาหารในวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่สัตว์สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ขณะเดียวกันก็มีบริษัทคนไทยอย่าง บริษัท โรงงานเภสัชกรรม เกร๊ทเตอร์ฟาร์ม่า จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาแผนปัจจุบัน ได้ยกระดับไปสู่กิจการสเต็มเซลล์ หรือการเก็บรักษาเซลล์ต้นกำเนิดเพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ต่อเจ้าของเซลล์ในอนาคต เงินลงทุน 26 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น