หลังจากที่มีตำแหน่งว่างจากเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมาของที่ปรึกษาสำนักงบประมาณ จำนวน 7 ตำแหน่ง ซึ่งจะมีการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงของสำนักงบประมาณครั้งใหญ่จำนวนมาก โดยแต่งตั้งจากข้าราชการระดับผู้อำนวยการสำนักฯ ขึ้นมาแทน
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงบประมาณเปิดเผยว่า จะมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาสำนักงบประมาณแบบเล่นพรรคเล่นพวกโดยไม่คำนึกถึงความอาวุโสในการดำรงตำแหน่งงาน ความรู้ความสามารถในการทำงาน หรือระบบคุณธรรม ไม่คำนึงถึงการพัฒนาบุคลากรเอาไว้ทำงานในอนาคต ทั้งนี้ สำนักงบประมาณเป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศมาก และจากข้อมูล ผู้อำนวยการสำนักฯ ที่เข้าข่ายจะได้รับการแต่งตั้งครั้งนี้มีภรรยาของผู้บริหารระดับสูงของสำนักงบประมาณทั้งคนก่อนหน้าคนปัจจุบันที่จะได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ด้วย จากผลการแต่งตั้งข้าราชการระดับชำนาญการพิเศษที่เพิ่งออกคำสั่งไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจะมีคนของตัวเองหรือพรรคพวกที่ยังมีอาวุโสน้อย โดยพยายามผลักดันและอ้างว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถ
สำหรับส่วนที่แต่งตั้งสร้างความชอบธรรมก็จะตั้งคนที่จะเกษียณอายุราชการเท่านั้น โดยไม่พิจารณาถึงบุคคลที่สามารถทำงานจริงๆ ที่ไม่ใช่พรรคพวกซึ่งจะไม่ได้รับการแต่งตั้งเลย เหตุผลที่แท้จริงเป็นการกันกลุ่มคนที่ไม่ใช่พวกและสร้างโอกาสให้คนของตัวเองได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงสืบทอดอำนาจต่อ ไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาก็เคยมีการแต่งตั้งในลักษณะที่ผู้รับการแต่งตั้งไม่ได้รับความเป็นธรรม กรณีของนายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้ยื่นหนังสือลงวันทึ่ 20 กันยายน ที่ผ่านมาว่าจะยื่นถวายฎีกา และยื่นฟ้องศาลปกครองเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมในการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดครั้งล่าสุดนี้ พร้อมทั้งได้อธิบายถึงการรับราชการในตำแหน่งต่างๆ ที่ผ่านมา แต่ในที่สุดเมื่อถึงเวลาแต่งตั้งกลับแต่งตั้งผู้มีอาวุโสน้อยขึ้นดำรงค์ตำแหน่งแทนในจังหวัดชายแดนใต้ แล้วโยกย้ายนายสายัณห์ จากจังหวัดยะลา มาจังหวัดตรัง โดยไม่มีเหตุผลอะไร ดังนั้นจึงได้รับคำแนะนำให้มีการฟ้องต่อศาลปกครอง เพราะเคยมีกรณีของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่แต่งตั้งข้ามหลักอาวุโสโดยมีเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ศาลปกครองให้ยกเลิกและดำเนินการคัดเลือกใหม่ ในส่วนของการถวายฏีกาก็ให้ทำไปพร้อมกัน เพราะการแต่งตั้ง ผวจ.ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ