xs
xsm
sm
md
lg

BMP ดันเอสเอ็มอีไทยบุกตลาดจีน ผุดโปรเจกต์ Chinese Net-idol Amazing Live ตั้งเป้ายอดขายกว่า 500 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“BMP” ผนึกพันธมิตรดันเอสเอ็มอีไทยบุกตลาดจีน ด้วยกลยุทธ์การทำตลาดออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันเถาเป่า ซึ่งมีผู้ซื้อสินค้าอันดับ 1 ของจีน พร้อมเปิดโครงการ “50 Chinese Net-idol Amazing Live in Thailand 2016” สร้างปรากฏการณ์ของการขายสินค้าผ่านการ Live battle ครั้งแรกในเมืองไทยส่งตรงสู่กลุ่มลูกค้าในเมืองจีน หวังสร้างยอดขายกว่า 500 ล้านบาทในปีแรก

อรอุมา กุลนาค ประธานกรรมการบริหาร(CEO) บริษัท บีเอ็มพี (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจในการเชื่อมการค้าไทย-จีน เปิดเผยว่า จากปัญหาผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ในการเจรจาทางการค้ากับประเทศจีนให้ประสบความสำเร็จได้ มากหรือน้อยอาจเกิดจากอุปสรรคหลายอย่าง เช่น ไม่รู้จะขายสินค้าให้ใคร ไม่มีระบบการกระจายสินค้า สินค้าถูกกดราคา จึงมีแนวคิดสร้างเฟซบุ๊กเพจ “ปล้นคนจีน ด้วย C- Commerce” โดยมีทีมในการให้คำปรึกษา วางแผน ดูแลทุกกระบวนการตั้งแต่นำสินค้าทดสอบ วางกลยุทธ์ หาตลาด ขนส่งสินค้า และการเก็บเงิน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถจับคู่ธุรกิจในประเทศจีนได้สำเร็จ โดยแพลตฟอร์มของ “ปล้นคนจีน” เป็นไกด์ไลน์ให้ผู้ประกอบการ แต่ว่าส่วนงานทั้งหมดจะมีบริษัทลูกเข้ามาดูแล นักธุรกิจไทยในทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ มีเป้าหมายนำสินค้าของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยไปขยายตลาดที่ประเทศจีน สำหรับกลุ่มสินค้าที่ตลาดจีนต้องการแบ่งเป็นกลุ่มของกิน ของใช้ เครื่องสำอาง กลุ่มสินค้าสปา สินค้าแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์ไทย เป็นต้น ปัจจุบันมีเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการ 100 ราย โดยตั้งเป้าไว้ประมาณ 4000 รายใน 1 ปี หลังจากเปิดตัวโครงการนี้อย่างเป็นทางการ

ล่าสุดได้เปิดโครงการ 50 Chinese Net-idol Amazing Live in Thailand 2016 ที่สร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกในเมืองไทย และส่งตรงสู่คนดูในประเทศจีนกับการขายสินค้าออนไลน์ โดยนำรูปแบบเกมการแข่งขันผ่านการ Live battle ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมาได้ประเดิมจัดกิจกรรม Pre Launch Live battle กับ 4 Chinese Net-idol ชั้นนำเข้าร่วมกิจกรรมที่ใช้ระยะเวลายาวนานถึง 6 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. พร้อมเตรียมจัดงานครั้งใหญ่ระหว่างวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้

“เราได้นำเทรนด์และเทคโนโลยีมาผสมผสานในการทำตลาดและสร้างแบรนด์สินค้า โดยดึง Net idol Top 5 คนที่มีผู้ติดตามมากสุดมาชิมลางก่อน ได้แก่ คุณจอนห์นี่ อาชีพนายแบบมีผู้ติดตาม (follower) 2,000,000 คน, คุณซือหยาง เป็นบล็อกเกอร์มีผู้ติดตาม 700,000 คน คุณหลิน ซูฮั่น (Lin Chu Han) เป็นช่างภาพมีผู้ติดตาม 500,000 คน และคุณจื่อหวาง นักแสดง มีผู้ติดตาม 960,000 คน ซึ่ง Net idol ดังกล่าวได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันในครั้งนี้” อรอุมากล่าวเสริม

ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ตั้งเป้าสร้างยอดขายให้สินค้าไทยกว่า 500 ล้านบาทในปีแรก นอกจากนี้ขั้นตอนและรูปแบบคอนเทนต์ตลอดโครงการฯ ได้รับเกียรติจากทีม Content Director ชั้นนำจากประเทศจีนเป็นผู้กำกับ และถ่ายทำกิจกรรมครั้งนี้ แล้วถ่ายทอดสดบนแอปพลิเคชันเถาเป่า (Taobao) ซึ่งเป็นเว็บคอมเมอร์ซอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศจีน

“ในยุคดิจิตอลที่โลกย่อส่วนให้เล็กลงการค้าขายกับต่างประเทศจึงไม่ใช่เรื่องเรื่องยาก วันนี้ประเทศจีนเป็นในประเทศที่ทุกๆ ประเทศต่างก็อยากจะทำการค้าด้วย แต่จะมีผู้ประกอบการสักกี่รายที่จะรู้ว่าตอนนี้จะต้องใช้เครื่องมือแบบไหนในการทำตลาดที่ประเทศจีน และอะไรคือเครื่องมือที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตอนนี้ จากสถิติผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนทั้งหมด พบว่ามีถึง 45% ที่ใช้งาน Live หรือแพลทฟอร์มถ่ายทอดสด เพื่อซื้อสินค้าเปรียบเทียบเหมือนกับ Facebook live ของไทย แต่จุดเด่นของ Taobao live จะรวดเร็ว ซื้อขายได้ทันที ซึ่งการใช้ช่องทางดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการเข้าถึงลูกค้าคนจีนที่จะเพิ่มโอกาสในการขาย และยังส่งเสริมภาพลักษณ์ในเรื่องของแบรนด์สินค้า (Brand Awareness) ให้เป็นที่รับรู้ จดจำ และน่าเชื่อถือ ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะเปิดทางลัดให้แก่เอสเอ็มอีไทย นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเข้ามาเสริมทัพพันธมิตรทางด้านการเงินให้แก่เอสเอ็มอี ได้แก่ ด้านสินเชื่อเพื่อการลงทุน ช่องทางการรับเงินจากการค้าขายในจีน เป็นต้น” อรอุมากล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แต่งตั้งตัวแทนด้านการขาย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท จีเอ็ม มัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด โทร. 08-4413-3539, Asian Panorama โทร. 0-2679-7036 และบริษัท เฮอร์ค คอมมิวนิเคชั่น จำกัด โทร. 08-6307-6410, 08-6307-6510 ซึ่งเป็นตัวแทนขายในการจัดทำโครงการฯ โดยมีแพกเกจสำหรับเอสเอ็มอีที่จะนำสินค้าไปขายในประเทศจีน คือ แพกเกจละ 79,000 บาท ซึ่งทาง Net-idol จะทำการโปรโมตสินค้า และหลังจากจบโครงการ 50 Chinese Net-idol Amazing Live in Thailand 2016 ทางเรายังดูแลการทำตลาดให้ต่อเนื่องอีก 5 ปี อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะผลักดันและสร้างยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการได้

“จุดเด่นของธุรกิจ C-Commerce คือ สามารถเพิ่มและขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ การประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการให้แพร่หลายมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ และช่วยขจัดอุปสรรคต่อการทำธุรกิจทั้งในเรื่องระยะทางและเวลาที่ต่างกันได้” อรอุมากล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น