xs
xsm
sm
md
lg

“โมบายล์ แอปฯ” มาแรง ต่างชาติแห่จองที่พักไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

น.ส.พิมพ์ปวีณ์ นพกิจกำจร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป”
ผู้จัดการรายวัน 360 - “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” ลงทุนระบบออนไลน์ทั้งระบบเดสก์ท็อปและโมบายล์ แอปพลิเคชันทั่วโลก 2.9 หมื่นล้านบาท ส่งผลคู่ค้าโรงแรมไทย 9 พันแห่งได้รับอานิสงส์ เผยตลาดโมบายล์ แอปฯ ไทยเติบโต 75% มีสัดส่วนลูกค้าจากโทรศัพท์มือถือถึง 45% ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมแพกเกจรวมมากกว่าโรงแรมอย่างเดียวพุ่งขึ้นถึง 20%

น.ส.พิมพ์ปวีณ์ นพกิจกำจร ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการตลาด “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” (Expedia Group) บริษัทด้านการท่องเที่ยวแบบออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ปัจจุบัน “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” มีแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 20 แบรนด์ เช่น Expedia, Hotels.com, Orbitz, AirAsiaGo, Travelocity. Hotwire, Egencia และอื่นๆ คิดเป็นจำนวนเว็บไซต์ท่องเที่ยวกว่า 200 เว็บไซต์ ใน 75 ประเทศทั่วโลก รวม 35 ภาษา

“เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” นิยามตัวเองว่าเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ทำการค้ากับการท่องเที่ยวครอบคลุมทุกธุรกิจ ทั้งโรงแรม, บริษัททัวร์, บริษัทรถเช่า และอื่นๆ ในปี 2559 จึงใช้เงินทุน 830 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาทเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีออนไลน์และแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ “Expedia Partner Central” (EPC) เพื่อช่วยให้คู่ค้าธุรกิจโรงแรมสามารถบริหารจัดการราคาห้องพัก จำนวนห้องว่าง และเพิ่มประสิทธิภาพของกลยุทธ์การจัดการรายได้จากข้อมูลเชิงลึกของตลาดตามเวลาจริงและผลตอบรับของลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้คู่ค้าธุรกิจคือโรงแรมทั่วโลกและลูกค้าผู้ใช้บริการจองที่พัก พร้อมกับใช้งบประมาณการตลาดทั่วโลก ประมาณ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.19 แสนล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์

สำหรับประเทศไทย “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” มีคู่ค้าธุรกิจโรงแรมกว่า 9 พันแห่งและจะยังคงเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของธุรกิจและตลาด โดยพบว่าแม้ลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงใช้บริการจองที่พักผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่การใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือก็มีการเติบโตสูงถึง 75% ทำให้ปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าจากโทรศัพท์มือถือ 45% และเครื่องคอมพิวเตอร์ 55% โดยมีสัดส่วนจำนวนห้องพักจากลูกค้าที่จองผ่านโทรศัพท์มือถือ 22% และเครื่องคอมพิวเตอร์ 78%

น.ส.พิมพ์ปวีณ์กล่าวอีกว่า จากผลสำรวจล่าสุดจาก “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” พบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในช่วงระยะเวลานี้มาจากประเทศชั้นนำ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยเฉลี่ยแล้วมีการจองโรงแรมล่วงหน้าผ่าน “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 1 เดือน หรือประมาณ 36 วัน พร้อมระยะเวลาการเข้าพัก 3 วันโดยเฉลี่ย

ขณะที่จุดหมายปลายทางหลักในประเทศไทย คือ พัทยา 70%, กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ 60%, ภูเก็ต 55% และเกาะสมุย 50% โดยภูมิภาคอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและมีอัตราการเติบโตที่น่าจับตามองคือ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล, ระยอง, ตราด, หาดใหญ่ และจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

น.ส.พิมพ์ปวีณ์กล่าวในตอนท้ายว่า ในประเทศไทยนักท่องเที่ยวต่างชาติยังนิยมใช้บริการของ “เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป” ในลักษณะ “ไดนามิก แพกเกจ” เพราะเป็นการรวบรวมข้อเสนอที่หลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน เช่น เที่ยวบิน, รถเช่า, โรงแรม และอื่นๆ เพราะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทั้งยังส่งผลให้เกิดการจองล่วงหน้าในระยะเวลาที่นานกว่าการจองเฉพาะโรงแรมอย่างเดียวถึง 1.5 เท่า นอกจากนี้ อัตรายกเลิกการจองแบบแพกเกจยังเกิดขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการจองโรงแรมอย่างเดียว โดยประเทศชั้นนำที่นิยมการจองแบบแพ็กเกจ ได้แก่ มาเลเซีย, ฮ่องกง, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์ และญี่ปุ่น

“การจองแบบแพกเกจมีความน่าสนใจเพราะเป็นวิธีการสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งโดยไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการจองห้องพักแบบปกติของโรงแรม โดยในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกจองมากกว่า 7.1 ล้านแพกเกจทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วน 20% ขณะที่การจองเฉพาะโรงแรมอย่างเดียวมีสัดส่วน 80%”



กำลังโหลดความคิดเห็น