ผู้จัดการรายวัน 360 - ลุ้นเกมทีวีดิจิตอล ผู้ผลิตคอนเทนต์กดปุ่มชะลอดูสถานการณ์หลังลาจอไปหลายรายการ ปีนี้ต้องเน้นคุมต้นทุน สายป่านยาว คอนเทนต์คุณภาพจึงจะอยู่รอด “มัชรูม” อัด 40 ล้านบาทสอยคอนเทนต์ฟอร์แมตต่างประเทศ หวังยึดเวลาช่องทีวีดิจิตอล พร้อมปักธงลุยทำมีเดียครบวงจรตอบโจทย์ลูกค้าเอสเอ็มอี นำเสนอแพกเกจ “The Rising Star 2016” มั่นใจดันรายได้สิ้นปีโต 25% สู่ 220 ล้านบาท
นายอรรฆรัตน์ นิติพน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มัชรูม เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ผลิตรายการทีวีและโฆษณา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับทีวีดิจิตอลตั้งแต่ช่วงต้นปีมาจนถึงเรื่องของการจ่ายสัมปทานงวดที่สามในขณะนี้ ในส่วนของภาพรวมผู้ผลิตรายการจะต้องรอดูทิศทางว่าหลังจากนี้ทีวีดิจิตอลจะออกไปทางไหน นั่นหมายถึงงบลงทุนของการผลิตคอนเทนต์ที่จะตามมาซึ่งคอนเทนท์ดีๆ มีคุณภาพยังเป็นที่ต้องการของแต่ละช่องอย่างแน่นอน
ผู้ที่จะอยู่ได้หลังจากนี้จะต้องเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง มีประสบการณ์และมีคอนเทนต์ที่ดีในมือ สำคัญสุดคือมีการควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีและมีทุนสำรองที่เพียงพอเพื่อตอบโจทย์ของแต่ละช่องที่ปีนี้มีแนวโน้มจ่ายค่าผลิตคอนเทนต์ลดลง รวมถึงเริ่มวางโพซิชันนิ่งช่องใหม่ ส่งผลให้ที่ผ่านมาอาจจะมีบางรายการที่หายไป
ในส่วนของ “มัชรูม” หลังจากเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาทมาเป็น 80 ล้านบาท และการร่วมทุนกับ “โพสต์ พับลิชชิ่ง” เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปีนี้ถือเป็นปีที่มีการลงทุนมากสุดไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ในการซื้อคอนเทนต์รายการฟอร์แมตต่างประเทศ 3 รายการ เกี่ยวกับการแพทย์ 1 รายการ และรายการอาหารจากญี่ปุ่น 2 รายการ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนารายการเกี่ยวกับครอบครัวอีก 1 รายการ ซึ่งจะนำเสนอในช่วงไตรมาสสี่ จากปัจจุบันมีรายการที่ผลิตและออกอากาศอยู่แล้ว 9 รายการ เช่น เปรี้ยวปาก, อายุน้อยร้อยล้านสู่อาเซียน และเล่าเส้นเป็นเรื่อง เป็นต้น
“การจับมือกับ โพสต์ พับลิชชิ่ง ถือเป็นการซินเนอยีร่วมกัน โดยโพสต์ พับลิชชิ่งให้สิทธิ์มัชรูมบริหารงานอย่างเต็มที่ ขณะที่มัชรูมได้อายบอลเพิ่มจากสื่อของโพสต์ พับลิชชิ่ง รวมถึงสามารถใช้ 3 สตูดิโอของโพสต์ พับลิชชิ่งได้ การเพิ่มทุนครั้งนี้ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลงทุนต่อยอดธุรกิจได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อฟอร์แมตต่างประเทศเป็นครั้งแรก รวมถึงขยายพื้นที่ออฟฟิศจาก 500 ตร.ม. เป็น 800 ตร.ม. และเพิ่มบุคลากรเข้ามาอีกกว่า 30 คน”
นายอรรฆรัตน์กล่าวต่อว่า นอกจากโฟกัสเรื่องคอนเทนต์แล้ว ปีนี้ยังให้ความสำคัญในส่วนของมีเดียมากขึ้น ซึ่งเป็นการต่อยอดจากรายการ “อายุน้อยร้อยล้าน” ด้วยการนำเสนอแพกเกจ “The Rising Star 2016” ด้วยการทำตลาดแบบครบวงจรให้ลูกค้า ราคา 1.5 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 5 เดือน โดยโครงการรองรับลูกค้าได้ 20 ธุรกิจ ขณะนี้มีผู้สนใจเข้ามาแล้ว 4 ธุรกิจ ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่ มิ.ย.-ส.ค. ศกนี้ แพกเกจ “The Rising Star 2559” จึงถือเป็นการรุกธุรกิจมีเดียอย่างจริงจัง โดยมองเป็นช่องว่างของตลาดในกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องการทำตลาดแต่มีงบฯ น้อยและยังไม่มีเอเยนซีรายใดเข้ามาจับตลาดนี้
จากแผนธุรกิจที่กล่าวมามั่นใจว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโต 25% หรือปิดรายได้ไม่ต่ำกว่า 220 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจใน 4 ส่วน คือ 1. ผลิตรายการ ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 116 ล้านบาท 2. มีเดีย เป้ารายได้ 48 ล้านบาท 3. คอมเมอร์เชียล 30 ล้านบาท และ 4. อะคาเดมี 27 ล้านบาท
นายอรรฆรัตน์ นิติพน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มัชรูม เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ผลิตรายการทีวีและโฆษณา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับทีวีดิจิตอลตั้งแต่ช่วงต้นปีมาจนถึงเรื่องของการจ่ายสัมปทานงวดที่สามในขณะนี้ ในส่วนของภาพรวมผู้ผลิตรายการจะต้องรอดูทิศทางว่าหลังจากนี้ทีวีดิจิตอลจะออกไปทางไหน นั่นหมายถึงงบลงทุนของการผลิตคอนเทนต์ที่จะตามมาซึ่งคอนเทนท์ดีๆ มีคุณภาพยังเป็นที่ต้องการของแต่ละช่องอย่างแน่นอน
ผู้ที่จะอยู่ได้หลังจากนี้จะต้องเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง มีประสบการณ์และมีคอนเทนต์ที่ดีในมือ สำคัญสุดคือมีการควบคุมต้นทุนการผลิตได้ดีและมีทุนสำรองที่เพียงพอเพื่อตอบโจทย์ของแต่ละช่องที่ปีนี้มีแนวโน้มจ่ายค่าผลิตคอนเทนต์ลดลง รวมถึงเริ่มวางโพซิชันนิ่งช่องใหม่ ส่งผลให้ที่ผ่านมาอาจจะมีบางรายการที่หายไป
ในส่วนของ “มัชรูม” หลังจากเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1 ล้านบาทมาเป็น 80 ล้านบาท และการร่วมทุนกับ “โพสต์ พับลิชชิ่ง” เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปีนี้ถือเป็นปีที่มีการลงทุนมากสุดไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ในการซื้อคอนเทนต์รายการฟอร์แมตต่างประเทศ 3 รายการ เกี่ยวกับการแพทย์ 1 รายการ และรายการอาหารจากญี่ปุ่น 2 รายการ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนารายการเกี่ยวกับครอบครัวอีก 1 รายการ ซึ่งจะนำเสนอในช่วงไตรมาสสี่ จากปัจจุบันมีรายการที่ผลิตและออกอากาศอยู่แล้ว 9 รายการ เช่น เปรี้ยวปาก, อายุน้อยร้อยล้านสู่อาเซียน และเล่าเส้นเป็นเรื่อง เป็นต้น
“การจับมือกับ โพสต์ พับลิชชิ่ง ถือเป็นการซินเนอยีร่วมกัน โดยโพสต์ พับลิชชิ่งให้สิทธิ์มัชรูมบริหารงานอย่างเต็มที่ ขณะที่มัชรูมได้อายบอลเพิ่มจากสื่อของโพสต์ พับลิชชิ่ง รวมถึงสามารถใช้ 3 สตูดิโอของโพสต์ พับลิชชิ่งได้ การเพิ่มทุนครั้งนี้ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลงทุนต่อยอดธุรกิจได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อฟอร์แมตต่างประเทศเป็นครั้งแรก รวมถึงขยายพื้นที่ออฟฟิศจาก 500 ตร.ม. เป็น 800 ตร.ม. และเพิ่มบุคลากรเข้ามาอีกกว่า 30 คน”
นายอรรฆรัตน์กล่าวต่อว่า นอกจากโฟกัสเรื่องคอนเทนต์แล้ว ปีนี้ยังให้ความสำคัญในส่วนของมีเดียมากขึ้น ซึ่งเป็นการต่อยอดจากรายการ “อายุน้อยร้อยล้าน” ด้วยการนำเสนอแพกเกจ “The Rising Star 2016” ด้วยการทำตลาดแบบครบวงจรให้ลูกค้า ราคา 1.5 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 5 เดือน โดยโครงการรองรับลูกค้าได้ 20 ธุรกิจ ขณะนี้มีผู้สนใจเข้ามาแล้ว 4 ธุรกิจ ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่ มิ.ย.-ส.ค. ศกนี้ แพกเกจ “The Rising Star 2559” จึงถือเป็นการรุกธุรกิจมีเดียอย่างจริงจัง โดยมองเป็นช่องว่างของตลาดในกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องการทำตลาดแต่มีงบฯ น้อยและยังไม่มีเอเยนซีรายใดเข้ามาจับตลาดนี้
จากแผนธุรกิจที่กล่าวมามั่นใจว่าสิ้นปีจะมีรายได้เติบโต 25% หรือปิดรายได้ไม่ต่ำกว่า 220 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจใน 4 ส่วน คือ 1. ผลิตรายการ ปีนี้ตั้งเป้ารายได้ 116 ล้านบาท 2. มีเดีย เป้ารายได้ 48 ล้านบาท 3. คอมเมอร์เชียล 30 ล้านบาท และ 4. อะคาเดมี 27 ล้านบาท