ผลสำรวจการใช้จ่ายออนไลน์ของมาสเตอร์การ์ด ประจำปี 2558 แสดงให้เห็นว่าคนไทยใช้จ่ายออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้งภายในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ 86.8% มองว่าความปลอดภัยในการใช้จ่ายยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจที่จะใช้จ่ายออนไลน์
เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่านโยบายของรัฐบาลในปีนี้ที่จะผลักดันระบบชำระเงินออนไลน์ หรือ อี-เพย์เมนต์ เป็นประเด็นร้อนที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างจับตามอง ล่าสุดมาสเตอร์การ์ดผู้นำด้านการให้บริการเทคโนโลยีการชำระเงินระดับโลกเผยผลสำรวจการใช้จ่ายออนไลน์ที่เจาะลึกถึงทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้จ่ายออนไลน์ และผ่านโทรศัพท์มือถือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลการสำรวจพบว่าผู้บริโภคชาวไทยสนใจการใช้จ่ายออนไลน์มากขึ้นเป็นจำนวน 82.6% แต่ยังคงมองว่าความปลอดภัยของระบบการจ่ายเงินบนหน้าเว็บไซต์เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจใช้จ่าย โดยผลสำรวจดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน 8,500 คน และมีอายุระหว่าง 18-64 ปี จาก 14 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามชาวไทยกว่า 82.6% ยอมรับว่าเคยทำการใช้จ่ายออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งครั้งภายในระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น 1.7% จากปี 2558 เนื่องจากความสะดวกในการใช้จ่าย ในขณะที่ผู้บริโภคชาวไทยส่วนใหญ่ (88.4%) พึงพอใจกับการใช้จ่ายออนไลน์ กว่า 86.8% มองว่าความปลอดภัยในการใช้จ่ายเป็นปัจจัยสำคัญที่คนไทยยังกังวลเมื่อใช่จ่ายผ่านหน้าเว็บไซต์
มร.แอนโทนิโอ คอร์โร ผู้จัดการประจำประเทศไทยและพม่า มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า “ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าคนไทยชื่นชอบความสะดวกสบายที่ได้รับจากการใช้จ่ายออนไลน์มากขึ้น มาสเตอร์การ์ดจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้จ่ายในประเทศไทย ในขณะที่เรามุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี ความปลอดภัยยังคงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอยู่เสมอ ในประเทศไทย เรามีเทคโนโลยีความปลอดภัยหลายชั้น (Multi-Layered Security) เพื่อรับรองความปลอดภัยของการใช้จ่ายของผู้ถือบัตร และอย่างที่ได้ประกาศในงาน Mobile World Congress ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน เมื่อไม่นานมานี้ มาสเตอร์การ์ดกำลังพัฒนาระบบตรวจสอบและยืนยันตัวตนโดยใช้เซลฟี่และรอยนิ้วมือ ซึ่งจะนำมาใช้ในตลาดต่างๆ ในอนาคตอันใกล้นี้”
ประเด็นสำคัญของผลสำรวจ
- โดยรวมแล้วเกือบครึ่งของผู้เข้าร่วมสำรวจ (48.5%) ทั่วทั้งภูมิภาคเคยใช้จ่ายผ่านทางโทรศัพท์มือถือในระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา โดยมีประเทศอินเดีย (76.4%) นำเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยประเทศจีน (76.1%), ประเทศเกาหลีใต้ (62%) และประเทศไทย (61.1%)
-ผู้บริโภคชาวไทยมองว่าการใช้จ่ายออนไลน์นั้นเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย (79.6%) และนิยมกลับไปเว็บไซต์ที่เคยใช้จ่ายมาก่อนแล้ว (78.4%) พร้อมรู้สึกว่าการใช้จ่ายออนไลน์นั้นง่ายดาย (76.2%)
- เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (38.63%), ตั๋วเครื่องบิน (35%) และ เสื้อผ้าและเครื่องประดับ (33.3%) คือประเภทสินค้าที่ผู้บริโภคชาวไทยนิยมซื้อผ่านออนไลน์มากที่สุด
ข้อแนะนำจากผู้บริโภคชาวไทยเพื่อพัฒนาการใช้จ่ายออนไลน์ให้ดีขึ้น ได้แก่ การทำให้ธุรกรรมง่ายขึ้น (60.8%) การปรับปรุงให้ความปลอดภัยของการใช้จ่ายดีขึ้นและกระตุ้นความมั่นใจของผู้บริโภคต่อธุรกรรมออนไลน์ (56.2%) และการลดค่าขนส่งให้ถูกลงหรือไม่ต้องจ่ายเลย (54%)