“กกร.” เร่งศึกษาแนวทางการทำงานร่วมภาครัฐเพื่อเสนอขับเคลื่อนเพิ่มรายได้ต่อหัวคนไทยจาก 5,000-6,000 เหรียญต่อคนต่อปีเป็น 10,000 เหรียญต่อคนต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า เหตุเพราะเป็นตัวชี้วัดความสุขที่แท้จริง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.ได้เห็นชอบให้คณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพภาคเอกชนของ กกร.ศึกษาแนวทางการดำเนินงานร่วมกับภาครัฐในการยกระดับรายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรของคนไทยหรือ GDP (Per capita) ให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 5,000-6,000 เหรียญสหรัฐต่อหัวต่อปี เป็น 10,000 เหรียญภายในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจาก กกร.เห็นสอดคล้องกันว่าจะเป็นตัวชี้วัดความสุขของคนไทยมากกว่า และที่สุดจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ผลผลิตมวลรวมในประเทศหรือ GDP เติบโตในที่สุด
“คณะทำงานนี้จะโฟกัสศึกษาแนวทางการเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนไทยให้เพิ่มขึ้นว่าจะมีแนวทางอย่างไร ซึ่งจะมองทั้งในส่วนของภาคเอกชน และนโยบายจากภาครัฐที่จะลงไป หลังจากนั้นคงเสนอคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน หรือ กรอ.ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งหากดูจากประเทศเพื่อนบ้านเราจะพบว่าทั้งสิงคโปร์และมาเลเซียสูงกว่าไทยมาก โดยเฉพาะมาเลเซียมีการพัฒนาไปไกลกว่าเราพอสมควร” นายสุพันธุ์กล่าว
นอกจากนี้ กกร.ยังสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) และการซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) อย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ ซึ่งกกร.กำลังศึกษาเพื่อเสนอและทำงานร่วมกับรัฐบาลเรื่องนี้เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะการทำงานให้ธุรกิจขนาดกลางและย่อมมีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกัน ที่ประชุมมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้ง จึงได้กำหนดกิจกรรมสัมมนาเร็วๆ นี้เพื่อรณรงค์วิธีการใช้น้ำอย่างประหยัด โดยเริ่มจากสมาชิก กกร.ในช่วง มี.ค.-มิ.ย. 59 มีเป้าหมายลดการใช้น้ำลงอย่างน้อย 20% ขึ้นไปในภาคเอกชน
“เราหารือเศรษฐกิจภาพรวม ม.ค. 59 ที่ยอมรับว่าไม่ดีนัก โดยทั้งภาคการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การบริโภคเอกชนสู่โหมดชะลอตัว ยกเว้นภาคท่องเที่ยวที่ยังโดดเด่น โดย กกร.คงจะมีการทบทวนตัวเลข GDP อีกครั้งในเดือนเมษายน” นายสุพันธุ์กล่าว
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กกร.ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) จัดทำแนวนโยบายคนเข้าเมืองและการอนุญาตการทำงานของคนต่างชาติในไทย ซึ่งคาดว่าจะเสนอรัฐต่อที่ประชุม กรอ.วันที่ 18 มี.ค.นี้ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของเอกชนและยกระดับรายได้ต่อหัวประชากรคนไทยให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากพบว่าการลงทุนของต่างชาติในไทยเป็นการนำเข้าแรงงานทักษะต่ำทำให้ไม่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพได้จึงจำเป็นจะต้องปรับระเบียบใหม่ให้มีการส่งเสริมแรงงานต่างชาติที่มีทักษะสูงเข้ามาแทน ทั้งการก่อให้เกิดมหาวิทยาลัยต่างชาติ นักวิจัย เพิ่มขึ้น เพื่อเข้ามาทำประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย