ผู้จัดการรายวัน 360 - ขึ้นปีที่สามทีวีดิจิตอลระเบิดศึกชิงเรตติ้ง “คอนเทนต์” หัวใจหลักกระตุ้นใจเอเยนซีและฐานผู้ชม “ช่องวัน” อัดงบ 2 พันล้านบาทปรับผังใหม่ วางผังรายการช่วงเวลาซูเปอร์ไพรม์ไทม์มาเต็ม ชูละคร 3 เรื่องตลอด 7 วัน พร้อมปรับผังช่วงกลางวันในเสาร์-อาทิตย์สู้ช่องใหญ่ พร้อมปรับราคาโฆษณาขึ้นได้อีก 50% มั่นใจสิ้นปีเรตติ้งช่องขยับขึ้นเป็นท็อป 3 ด้วยรายได้ 1.8 พันล้านบาท โต 80%
นายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “ช่องวัน 31” บริษัท จีเอ็มเอ็มวันทีวี จำกัด เปิดเผยว่า เข้าสู่ปีที่สามของทีวีดิจิตอลมองว่าปีนี้เป็นปีที่แข่งขันกันเรื่องของคอนเทนต์รายการและผังรายการให้แมตช์กับผู้ชมที่ชมรายการประเภทนั้นๆ มากขึ้น จากช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการรับชมและการเข้าถึงทีวีดิจิตอลของผู้ชมเป็นหลัก โดยในส่วนของ “ช่องวัน” ปีที่ผ่านมาถือว่ามีโพซิชันนิ่งช่องที่ชัดเจนแล้วในการเป็นช่องวาไรตี ปีนี้จะมุ่งเน้นและปรับผังรายการให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาซูเปอรไพรม์ไทม์ ตั้งแต่เวลา 20.15-22.15 น. และช่วงเวลากลางวันของวันเสาร์-อาทิตย์ให้ดีขึ้นเพื่อดึงผู้ชมให้อยู่ที่ช่องมากกว่าเดิม
“ปีที่ผ่านมาทางช่องอยู่ในช่วงการลองผิดลองถูกในการนำเสนอคอนเทนต์ใหม่ๆ ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี เพื่อนำไปสู่คอนเทนต์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด โดยได้วางโพซิชันนิ่งเป็นช่องวาไรตีที่มีทั้งละคร ข่าว และบันเทิง จับกลุ่มผู้ชมระดับโมเดิร์นแมส โดยบริษัทมีความแข็งแกร่งและเชี่ยวชาญในเรื่องของการผลิตละครเป็นอันดับสามของไทย ละครจึงเป็นคอนเทนต์หลักในการขับเคลื่อนช่องวัน จะเริ่มทยอยนำเสนอละครใหม่ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้เป็นต้นไป รวมแล้วทั้งปีน่ามีประมาณ 20 เรื่อง”
ในปีนี้ใช้งบลงทุนรวมกว่า 2 พันล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1. คอนเทนต์ 1.5 พันล้านบาท เป็นละครกว่า 700 ล้านบาท หรืออยู่ในสัดส่วน 50-56% ที่เหลือเป็นคอนเทนต์อื่นๆ 2. การบริหารจัดการของช่องวันอีก 500 ล้านบาท โดยในส่วนของละครนั้นจากเดิมวันจันทร์-พฤหัสบดี จะเริ่มตั้งแต่ 20.15-22.15 น. ปรับเวลาเป็น 20.20-22.20 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 18.20-20.20 น. ล่าสุดที่กำลังจะลงจอ ได้แก่ เพื่อเธอ, นางบาป และเรือนร้อยรัก เป็นต้น ซึ่งระหว่างคอนเทนต์ละครนี้จะมีรายการที่ช่วยดึงผู้ชมให้อยู่ในช่องวันทั้งก่อนและหลังละคร เช่น
ในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ก่อนละครจะมีรายการ ศึกวันดวลเพลง และรายการเดอะสตาร์เดลี่ ในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อนำเข้าสู่รายการเดอะสตาร์ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และหลังจากจบละครจะมีรายการวาไรตีต่างๆ มาเสริม เช่น วันอาทิตย์หลังจบละคร จะเป็นรายการ 4 โพดำ จากเดิมที่อยู่ในวันพุธ เวลา 22.20-23.20 น. นอกจากนี้ยังจะให้ความสำคัญต่อกลุ่มรายการข่าวและกีฬา เช่น จะมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลระหว่างไทย-อิรัก ในเดือน มี.ค.นี้ รวมถึงจะจัดทัวร์นาเมนต์รายการกีฬาขึ้นมาเองซึ่งกำลังเปิดศึกอยู่หลายรายการ เช่น มวย ฟุตบอล และวอลเลย์บอล ซึ่งเป็นกีฬาที่คนไทยสนใจ
อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา “ช่องวัน” มีเรตติ้งช่องอยู่ในระดับ 0.3 โดยรายการที่มีเรตติ้งสูงสุดคือ 1. รายการศึกวันดวลเพลง อยู่ที่ 2.7 และละคร สามารถทำเรตติ้งสูงสุดได้ถึงระดับ 3 กว่า ซึ่งมีอยู่ 3 เรื่อง เช่น สื่อริษยา, เล่ห์ระตี และบัลลังก์เมฆ ส่งผลให้ราคาโฆษณาอยู่ที่ 3 หมื่นบาทถึง 1.5 แสนบาท ซึ่งปีนี้ทั้งปีน่าจะสามารถปรับราคาได้อีก 50% ตั้งแต่ช่วงเดือน มี.คนี้เป็นต้นไป เชื่อว่าจะส่งผลให้รายได้ปีนี้โตขึ้นอีก 80% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านบาท จากปีก่อนปิดรายได้ที่ 1 พันล้านบาท โตขึ้น 7 เท่าตัว หรือในสิ้นปีนี้มองว่าช่องวันจะมีเรตติ้งช่องอยู่ในระดับ 1.0 จากเดิมอยู่ในระดับท็อป 5 มาสู่อันดับที่ดีขึ้น หรือในกลุ่มท็อป 3
ด้านนายสุรพล พีรพงศ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด-การขาย “ช่องวัน 31” บริษัท จีเอ็มเอ็มวันทีวี จำกัด กล่าวต่อว่า ภาพรวมทีวีดิจิตอลปีนี้มีทั้งปัจจัยบวก เช่น ความชัดเจนของอุตสาหกรรม ผู้ชมเข้าถึงทีวีดิจิตอลได้ 100% ผู้ชมมูฟการรับชมจากช่องฟรีทีวีเดิมสู่ทีวีดิจิตอลมากขึ้น ส่วนปัจจัยลบมีอยู่ 2 ส่วนหลัก คือ ภาพรวมเศรษฐกิจ และการเมืองที่อาจจะมีบางส่วนที่ยังไม่ชัดเจน