“สมคิด” มั่นใจแผนงานบีโอไอหลังตรวจเยี่ยมวันนี้ ชี้ปี 2559 ยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจะแตะระดับ 4.5 แสนล้านบาทได้แน่นอนหลังนักลงทุนเริ่มเข้าใจนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่แล้ว
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 58 ว่า ปี 2559 จากรายงานของบีโอไอค่อนข้างมั่นใจว่าการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจะสูงถึง 4.5 แสนล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าการยื่นขอรับส่งเสริมฯจะอยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาทหรือเพิ่มกว่า 2 เท่าตัว เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความเข้าใจนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ของบีโอไอมากขึ้น
“ไตรมาส 4 ปีนี้เราเป็นห่วง แต่ก็พบว่านักลงทุนจากญี่ปุ่นก็เริ่มกลับเข้ามาเป็นอันดับ 1 ของนักลงทุนตรงจากต่างประเทศอีกครั้งในสัดส่วน 30% ของการลงทุนจากต่างประเทศ และปีนี้เองการยื่นขอลงทุนก็จะอยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาทเพราะปีนี้บีโอไอได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่จากเน้นสิทธิประโยชน์ตามพื้นที่หรือเขตก็มาเป็นประเภทอุตสาหกรรมถ้าไฮเทคมากก็ได้รับสิทธิประโยชน์มาก ซึ่งจากการไปโรดโชว์นักลงทุนเริ่มเข้าใจมากขึ้น” นายสมคิดกล่าว
ขณะเดียวกัน บีโอไอจะปรับการทำงานด้วยการมุ่งเน้นการดึงการลงทุนปี 2559 ใน 10 กลุ่มประเทศเป้าหมาย เช่น ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เยอรมนี สแกนดิเนเวีย อาเซียน ฯลฯ โดยมีโต๊ะการส่งเสริมการลงทุนในแต่ละประเทศที่มีผู้เชี่ยวชาญในการเจาะลึกการดึงลงทุน ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญทางด้านการตลาดและอุตสาหกรรมแต่ละประเภทโดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายที่บีโอไอจะดึงเข้ามาใหม่
อย่างไรก็ตาม การทำงานจะต้องเชื่อมโยงกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ และต้องเชื่อมโยงการมองการลงทุนไปยังต่างประเทศเพราะประเทศที่พัฒนาแล้วจะเปลี่ยนจากการส่งออกเป็นการลงทุนต่างประเทศเพื่อนำรายได้กลับมาพัฒนา อนาคตบีโอไอก็จะมีภารกิจสำคัญคือ นอกจากดึงธุรกิจเข้ามาลงทุนก็จะต้องนำนักธุรกิจไทยที่พร้อมไปลงทุนต่างประเทศ ดังนั้นบีโอไอก็จะต้องสร้างหน่วยงานตรงนี้รองรับไว้
“บีโอไอจะต้องปรับเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงการลงทุนจากภายในสู่ภายนอก เปลี่ยนจากภาคการผลิตสู่ภาคบริการก็จะเน้นมากขึ้น ไม่แช่แค่การท่องเที่ยวแต่จะมองเรื่องการแพทย์ การศึกษา อีคอมเมิร์ซ บีโอไอจะต้องจัดลำดับเพื่อให้งานปีหน้าเป็นไปด้วยดี” นายสมคิดกล่าว
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2560 บีโอไอเตรียมเสนอของบไว้ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท จากปกติทุกปีเฉลี่ยที่จะได้รับงบประมาณ 800 ล้านบาทเนื่องจากต้องเพิ่มกำลังคนเพื่อรองรับงานที่เพิ่มขึ้น