ผู้จัดการรายวัน 360 - “ซัมมิทฟุตแวร์” ลดเสี่ยง หนีตลาดรองเท้าแตะลำลองแข่งดุเดือด แตกไลน์รองเท้าผ้าใบเจาะวัยรุ่น หวังเสริมรายได้ ทุ่มงบ 500 ล้านบาทซุ่มวิจัย มั่นใจปีแรกสัดส่วน 20%
นางสาวพิมพ์กวิน ชยะตังวัฒนะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรองเท้าแตะลำลองมูลค่า 5 พันล้านบาทปัจจุบันแข่งขันค่อนข้างสูงจากผู้ประกอบการหลายแบรนด์ โดยเฉพาะเรื่องราคา การออกแบบ และช่องทางการจำหน่าย ทั้งยังมีอัตราการเติบโตน้อยกว่าในอดีต แต่รองเท้าแตะแบรนด์ “แอโร่ซอฟท์” ของบริษัทฯ ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทำตลาดรองเท้าแตะมานานกว่า 30 ปี บริษัทฯ ยังคงศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์และรองเท้าเซกเมนต์ใหม่เพื่อขยายฐานตลาดและรายได้ ล่าสุดได้แตกไลน์สินค้าเข้าสู่ตลาดรองเท้าผ้าใบลำลอง หรือกลุ่มแคชวล แบรนด์ “แอโร่ซอฟท์ ฟลาย” เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่สู่กลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา อายุเฉลี่ย 18 ปีขึ้นไป จากเดิมที่รองเท้าแตะจะมีกลุ่มเป้าหมายหลักอายุ 30 ปีขึ้นไป
“บริษัทฯ ใช้เวลา 2 ปีในการศึกษาและพัฒนาสินค้าและลงทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เพิ่มไลน์ผลิตที่โรงงานเดิมที่ถนนบางนา-ตราด กม.ที่ 16 กำลังผลิตรวมทั้งรองเท้าแตะและรองเท้าผ้าใบใหม่ตอนนี้เพิ่มเป็น 4 ล้านคู่ต่อเดือน จากเดิมผลิตได้ 3.5 ล้านคู่ต่อเดือน โดยทดลองทำตลาดรองเท้าผ้าใบปีนี้”
ตลาดรองเท้าผ้าใบลำลองมีมูลค่าตลาดประมาณ 5 พันล้านบาท เติบโตดี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นระดับบนซึ่งของเราจะเป็นกลุ่มที่ระดับกลางประมาณ 300 กว่าบาท ไม่เกิน 1,000 บาท ตลาดนี้จะมี 3 แบรนด์หลักทำตลาดอยู่และจับตลาดกลุ่มเดียวกับเรา เช่น แบรนด์ “เบาจิ” และ “กีโต้” โดยบริษัทฯ มีจุดจำหน่ายรองเท้ารวมมากกว่า 1 พันจุด ทำตลาดเต็มรูปแบบ และการใช้พรีเซ็นเตอร์คือ “มาริโอ้ เมาเร่อ” พร้อมมีการส่งออกไปต่างประเทศด้วย
สำหรับรองเท้าผ้าใบตอนนี้เริ่มส่งออกไปที่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และพม่าบ้างแล้ว ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2558 ยอดขายรวมในประเทศทรงตัวไม่ได้โตมากนัก แต่มั่นใจว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายยอดขายกระเตื้องขึ้น จะทำให้รายได้รวมในประเทศ 1 พันกว่าล้านบาท สัดส่วนมาจากรองเท้าผ้าใบในปีแรก 20% ส่วนรายได้ต่างประเทศเดิมที่ส่งออกรองเท้าแตะไปขายกว่า 40 ประเทศทั่วโลกมีประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท หากรวมรายได้ทั้งหมดปีนี้คาดว่าจะมีประมาณ 4 พันกว่าล้านบาท สัดส่วนรองเท้าแตะ 60% และรองเท้าผ้าใบ 40%